วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558

Mistake




[Special] Teach about Mistake – Sungmin Part (1)
                

                เมื่อคืนหลังจากที่ผมกับไอ้คยูเข้าใจตรงกันแล้ว ผมกับมันก็นอนค้างที่คอนโดด้วยกัน และผมก็จัดการปิดมือถือจงใจให้ขาดการติดต่อไปด้วย ที่จริงแล้วผมก็ไม่ได้อยู่ในโอวาสของซองจินนักหรอก ไม่อย่างนั้นผมจะแอบลักลอบคุยโทรศัพท์และเจอกันตอนกลางวันทำไม ก็เพราะผมแคร์ทั้งมันทั้งซองจิน ถึงได้มีแค่ผมเพียงฝ่ายเดียวที่กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก
ผมเคยบอกว่าซองจินเป็นคนมีเหตุผล ใช่ .. น้องของผมเป็นคนมีเหตุผล แต่สำหรับวันนั้นซองจินไม่มีเหตุผลเลย เพราะซองจินบอกให้ผมเลิกกับไอ้คยูจนกว่าเซอึนจะตัดใจจากผมได้ ซึ่งมันเป็นคำขอร้องที่โง่เง่ามาก ผมกับซองจินก็เลยทะเลาะกันอย่างหนัก และตอนนั้นเซอึนก็เข้ามาได้ยินพอดี

ผมที่ทั้งโมโหและน้อยใจจนเลือดขึ้นหน้าก็ร้องตะโกนทั้งน้ำตาว่า ได้ .. ในเมื่อซองจินคือคนที่สำคัญที่สุดสำหรับพี่ ไม่ว่าจะต้องการอะไร พี่ก็จะหามาให้ทุกอย่างเพราะพี่อยากจะเติมเต็มให้ซองจินแทนพ่อกับแม่ ต่อให้ต้องบอกเลิกคนที่ตัวเองรักเพราะซองจิน พี่ก็จะทำให้ แต่ซองจินหรือใครก็ตาม ไม่มีสิทธิ์มาสั่งห้ามไม่ให้พี่รักไอ้คยู
หลังจากที่ผมระเบิดอารมณ์ที่มันถูกสะสมมานานเป็นที่เรียบร้อย ผมก็รีบวิ่งออกจากบ้านและเดินเรื่อยเปื่อยไปจนถึงหน้าปากซอย จนกระทั่งผมนั่งรถเมล์มาลงที่สวนสาธารณะใกล้ๆกับคอนโดของไอ้คยู ผมที่กำลังไม่สบายใจก็นึกถึงคำแนะนำของมันได้ ผมก็เลยห้อยตัวกับราวเหล็กเพื่อซ่อนน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมา ..

ผมทั้งเสียใจและน้อยใจกับเหตุผลของซองจิน ที่มันมีแต่ความเห็นแก่ตัว จนทำให้การห้อยหัวกับราวเหล็กก็ไม่อาจเก็บน้ำตาของผมเอาไว้ได้ ผมตอนนั้นเลยร้องไห้สะอึกสะอื้นจนเสียหลักและล่วงหล่นลงมากับพื้นดินอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว เลยทำให้เนื้อตัวของผมมีแต่แผลถลอกเต็มไปหมด แต่ผมก็ไม่คิดจะทำความสะอาดหรือจะใส่ใจมันสักนิด เพราะผมเอาแต่ใส่ใจกับการร้องไห้เพียงอย่างเดียว ..
ผมรู้ว่าซองจินรักเซอึนมาก ยิ่งเห็นคนรักของตัวเองเจ็บปวด ซองจินก็ย่อมต้องทนดูไม่ได้ แล้วผมล่ะ ? ทำไมซองจินถึงไม่คิดบ้างว่าพี่ชายคนนี้ก็เจ็บและน้อยใจเป็น ..
และหลังจากเหตุการณ์นั้น ระหว่างผม ซองจิน และเซอึนก็มีแต่ความอึดอัดต่อกัน ..

ผมไม่เคยชอบใจเลยเวลาที่เซอึนมักจะรื้อฟื้นพฤติกรรมเก่าๆของไอ้คยูออกมาพูด เธอมักจะย้ำซ้ำไปซ้ำมาผมไอ้คยูมันเป็นคนไม่ดี มันเคยทำร้ายเธอ ทำไมผมถึงยังรักมันลง ผมก็ได้แต่เงียบ ไม่อยากจะต่อความยาวสาวยามยืด เพราะจริงๆแล้ว ไอ้คยูมันก็เคยทำร้ายผม แต่ผมก็ยังรักมันลง ฉะนั้นเรื่องที่มันเคยทำร้ายเซอึน ย่อมไม่ได้อยู่ในความสนใจของผมอยู่แล้ว ..
ในเมื่อหัวใจเป็นของผม ..
ผมก็ต้องมีสิทธิ์ตัดสินใจของผมเอง ..

ผมโกรธที่ซองจินฝังใจกับคำบอกเล่าของเซอึนมากกว่าจะมองไอ้คยูที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาตัวเอง ว่าจริงๆแล้วตอนนี้มันเป็นคนยังไง ทั้งๆที่ช่วงแรกๆที่ไอ้คยูมันมาอยู่ที่บ้าน ซองจินยังบอกผมอยู่เลยว่าไอ้คยูมันก็โอเค แต่แค่ซองจินรู้ว่าไอ้คยูมันคือผู้ชายที่เคยทำให้คนที่ตัวเองรักเสียใจ ซองจินก็เริ่มตั้งแง่มากขึ้น และเริ่มจับผิดผมมากขึ้น สุดท้ายความลับที่ว่าผมกับไอ้คยูยังคงติดต่อกันอยู่ก็เริ่มเผยออกมา .. ผมก็เลยจำเป็นต้องเงียบหายไป และทำเหมือนว่าเราสองคนกำลังทะเลาะกันเพราะเรื่องที่ได้พูดคุยกันที่ร้านอาหาร
พอสถานการณ์เริ่มมึนตึงมากเข้า ผมก็เริ่มจะมีความคิดอิจฉาเซอึนที่ซองจินใส่ใจความรู้สึกทุกอย่าง จนลืมใส่ใจความรู้สึกของผม ซึ่งการกระทำแบบนี้มันเป็นครั้งแรกเลยที่ซองจินทำ..

ผมเสียใจและน้อยใจมาก ผมจึงคิดจะเอาคืนซองจินและสั่งสอนให้น้องรู้ว่าการทำให้พี่อย่างผมเสียใจมันน่าเจ็บปวดแค่ไหน ส่วนเซอึนผมก็ทำเหมือนเธอเป็นเพียงแค่อากาศธาตุ แม้ว่าความหวังดีที่ผมมีให้ฐานะเพื่อนจะยังคงอยู่ก็ตาม แต่ผมก็สามารถทำแบบนั้นได้ ..
เมื่อคืนผมแกล้งหาเรื่องทะเลาะกับซองจิน และโทรนัดให้ไอ้คยูมันออกมาเจอผม ซึ่งวินาทีแรกที่ผมเห็นมัน ผมรู้สึกคิดและโหยหาสัมผัสอบอุ่นของมันมาก เพราะตั้งแต่เกิดเรื่อง ผมกับมันก็แทบจะไม่ได้เจอหน้ากันเลย แล้วไหนจะงานของผมที่มีให้รับผิดชอบจนมากมายนั่นอีก ผมก็ไม่รู้จะหาเวลาที่ไหนไปไขว่คว้าหาความอบอุ่นจากมันแล้ว ..

น้ำตาของผมที่หยดลงบนพื้นดิน จริงๆแล้วมันคือน้ำตาแห่งความคิดถึง ไม่ใช่ความเสียใจหรือเป็นกังวลใดๆทั้งสิ้น ผมจึงใช้จังหวะนั้นพูดไปตามแพทเทิร์นที่ผมคิดเอาไว้ก่อนหน้า โดยที่ทุกคำพูดของผมได้ผ่านการครุ่นคิดมาอย่างดีแล้วว่าปฏิกิริยาของไอ้คยูมันจะออกมาในรูปแบบไหน ..
ซึ่งคำว่า เลิกกันเถอะที่ออกมาจากปากผมในรอบแรก ย่อมเป็นโมฆะ ในเมื่อผมแอบไขว้นิ้วเอาไว้ตรงด้านหลังพร้อมๆกับการพูดประโยคนั้น และที่ผมยิ่งร้องไห้ออกมา มันก็เป็นเพราะว่าปฏิกิริยาของไอ้คยูมันเกิดคาดไปมาก ยิ่งมันเจ็บปวดแต่กลับอ่อนโยนกับผมแบบนั้น น้ำตาของผมก็ยิ่งไหลเพราะผมกำลังใช้มันเป็นเครื่องมือสั่งสอนน้องชายของตัวเอง

ผมแอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อไอ้คยูมันจัดการโทรหาซองจินและเป็นคนพูดเองว่ามันกับผม เราสองคนจะเลิกกัน และเมื่อไอ้คยูมันพูดเหมือนกับว่าเราสองคนจะต้องเลิกรากันจริงๆ ผมก็เริ่มสะอื้นออกมา เพราะทุกอย่างมันเริ่มเกินจากที่ผมจะสามารถควบคุมได้ แต่ทันทีที่มันชูปลายนิ้วชี้และนิ้วกลางที่ไขว้กันเอาไว้ขึ้นมา น้ำตาของผมถึงได้หยุดไหล เมื่อความต้องการของเรามันตรงกัน ..
และจากนั้นผมก็ชูนิ้วชี้และนิ้วกลางขึ้นมาตรงหน้า เพื่อตอบรับกับความสัมพันธ์อันเข้าใจยากที่เราเป็นคนสร้างมันขึ้นมาด้วยกัน ..

“มึงคิดอะไรอยู่วะ หิวหรือยัง ?” ไอ้คยูมันนอนตะแคงข้างพลางท้าวศีรษะถามผมอย่างสงสัย
“คิดเรื่อยเปื่อยว่ะ ไม่มีอะไรหรอก ..” ผมส่ายหัวพลางส่งยิ้มให้มัน

“ไม่มีพ่องมึงสิ ไอ้สัส ..” ไอ้คยูมันเอาปลายนิ้วดันหน้าผากผม .. ผมก็เลยชักสีหน้าใส่มันพลางยกมือปัดๆปลายนิ้วของมันให้เลิกมายุ่งย่ามกับผมสักที
“เอ๊ะ มึงนี่ ..” ผมชักโมโห เมื่อไอ้คยูมันยังแหย่ผมไม่เลิก

“ทำไมโทรศัพท์มึงเงียบจังวะ แปลกชิบหาย ..” ไอ้คยูมันถาม พลางขยับตัวเอื้อมมือโน้มข้ามตัวผมเพื่อหยิบโทรศัพท์ของผมมาดู ราวกับมันกำลังรอคอยอะไรสักอย่าง
“ปิดเครื่อง ? ไอ้สัส กูก็ว่า .. เกือบร้อยสาย หึ ..” ไอ้คยูมันจัดการเปิดเครื่อง แล้วจากนั้นไม่นานนักข้อความและสายไม่ได้รับก็เด้งขึ้นมาเกรียวกราว และเมื่อผมมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ตามที่ไอ้คยูมันยื่นมาให้ดู ก็พบว่าทั้งข้อความและสายที่ไม่ได้รับล้วนมาจากซองจินแล้วสิ้น ..
ใจของผมที่กำลังโกรธเคืองและน้อยใจซองจินอยู่ ก็ถึงคราวต้องอ่อนยวบลงมา 20%

“มึงจะเปิดทำไม ปิดไว้นั่นแหละดีแล้ว .. กูกำลังสั่งสอนน้องกูอยู่ ..” ผมเอื้อมมือไปแย่งโทรศัพท์ของตัวเองคืนมา แล้วก็จัดการปิดเครื่องเหมือนเดิม

“ถึงกูจะรักน้องกูมาก แต่กูก็ไม่ได้ตามใจมันทุกอย่าง .. ไม่ต้องให้ถือมือมึงหรอก กูจัดการของกูเองได้ ..
“แล้วแต่มึง .. กูยังไงก็ได้ แต่กูขออย่าง มึงช่วยจัดการให้มันยุติธรรมสำหรับกูหน่อยแล้วกัน อยู่ๆมันมาตัดสินกูเพราะเรื่องอดีตของกูได้ยังไง ทั้งๆที่ปัจจุบันกูเป็นยังไงมันก็น่าจะรู้ .. แค่ผู้หญิงคนเดียว ทำไมต้องมาทำให้มึงเสียใจ น้อยใจแบบนี้ด้วยวะ กูไม่เข้าใจ .. กูโกรธ กูเคืองแทนมึง เพราะกูหวังอยู่ตลอดว่ามันจะเป็นเด็กดี ไม่ทำตัวไม่ได้เรื่องแบบกูที่ทำให้พ่อแม่กูต้องเสียใจ แต่สุดท้ายมันก็ทำตัวดีกว่ากูแค่นิดเดียว ..

” ผมไม่ได้พูดอะไร แต่กลับส่งยิ้มให้มันเงียบๆ แล้วก็นอนมองตากันอยู่แบบนั้น กว่าจะลุกออกจากที่นอนก็สายจนตะวันโด่งแล้ว
“เมื่อวานทำไมมึงถึงยอมรับได้กับการตัดสินใจของกู ..” ผมถามพลางผัดข้าวผัดกิมจิใส่ลูกเกดสูตรพิสดารของไอ้คยูไปด้วย ส่วนปากก็ซักถามข้อสงสัยไปด้วย
“ไม่รู้ดิ .. คงเพราะกูอ่านความรู้สึกมึงออกมั้งว่าไม่ได้คิดอย่างที่พูดออกมาจริงๆ” ไอ้คยูมันก้มหน้าอ่านงานในไอแพดของบริษัทแต่เช้า ขณะที่ตัวของมันก็ยืนเฝ้ามื้อเช้าอยู่ตรงหน้าเตาไม่ไปไหน
“จริงๆกูคิดคำนวณทุกอย่างเอาไว้แล้วว่าผลลัพธ์จะเป็นไปในทิศทางไหน ..” ผมบอก พลางคลุกข้าวผัดให้กลมกล่อม

“ไอ้เชี่ย มึงว่าไงนะ .. สัส .. ตอนนั้นกูใจหวิวเลยนะเว้ย ..” ไอ้คยูมันด่าผม พลางล็อคคอผมด้วยวงแขนของมันอย่างแน่นหนา

“เป็นคนอื่น มึงได้เลิกกับเขาจริงๆแน่ ..” ไอ้คยูมันกระซิบข้างใบหูของผม ส่วนผมก็ได้แต่ยืนใจสั่น เพราะตอนนั้นผมกลัวจริงๆว่าสิ่งที่มันเพิ่งจะพูดไปจะกลายเป็นความจริง ..

“แต่เพราะเป็นกูไง อะไรๆที่มันมิสเทค ถึงได้กลายเป็นความจริงไปได้ ..” ไอ้คยูมันกอดผมไว้ พลางวางปลายคางลงบนศีรษะของผม ส่วนผมก็ได้แต่ยืนอมยิ้มกับคำบอกเล่าของมัน
“จะเที่ยงแล้วแม่ง มึงรีบตักข้าวมาแดกเถอะ เดี๋ยวโรคกระเพราะจะถามหาซะก่อน” ไอ้คยูมันปล่อยผมให้เป็นอิสระ แล้วมันก็เดินตัวปลิวถือไอแพดไปนั่งอ่านงานของมันต่อ

“ช่วงนี้มึงไม่ค่อยได้อยู่คอนโดใช่ป่ะ กูขอมาอยู่ที่นี่สักพักได้ไหมวะ ?” ผมถาม ขณะตักมื้อเช้าค่อนไปทางมื้อกลางวันเข้าปาก
“นานไหม ? อีกไม่นานกูก็จะคืนห้องให้ไอ้ซีวอนมันแล้ว ..

“ก็ไม่รู้สิ .. กูยังไงก็ได้ ถ้ามึงจะคืนห้องเมื่อไหร่ก็บอกกูแล้วกัน กูจะได้ไม่ใช้” ผมบอก
“อืม .. มึงมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้อยู่แล้วมิสเทค ที่จริงมึงไม่ต้องขอกูก็ได้ ..” ไอ้คยูมันตอบ พลางก้มหน้าก้มตากิน ผมเลยไม่ต้องแอบอมยิ้มกับคำตอบของมัน

“เออ .. จริงๆมึงมาอยู่บ้านกูก็ได้นะ ไม่ต้องอยู่คอนโดหรอก ..
“ไม่เอา กูไม่อยากให้ซองจินรู้ คอนโดมึงปลอดภัยที่สุดแล้ว เพราะมึงไม่ค่อยมาที่นี่ แล้วน้องกูก็ไม่รู้จักคอนโดมึงด้วย ..

“มึงพูดเหมือนน้องมึงรู้จักบ้านกูเนอะ” ไอ้คยูมันย้อน
“บ้านประธานโจวกรุ๊ปมันสืบหาง่ายจะตายไป ..” ผมตอบตามความจริง

“ตามใจ ..” ไอ้คยูมันตอบ แล้วก็ลุกขึ้นและเอาจานทั้งของมันและของผมไปเก็บล้าง
“นี่ .. แต่ยังไงวันสองวันนี้ มึงก็ต้องไปที่นั่น เพราะกูยังติดค้างแม่กูอยู่ ..” ไอ้คยูมันเตรียมตัวจะกลับไปทำงานต่อที่บ้าน เพราะงานเขียนโปรแกรมของมันยังต้องเคลียร์อะไรให้สมบูรณ์อีกนิดหน่อย

“เรื่อง ?” ผมเดินตามมันมาจนถึงหน้าประตูห้อง พลางย้อนถามอย่างสงสัย
“พามึงมาแนะนำตัวกับที่บ้านกูไง .. เดี๋ยวกูจะไปหาซื้อเทียนหอมแบบตอนนั้นไว้รอ ..” ไอ้คยูมันตอบ พลางขยี้หัวผมที่ลืมไปแล้วว่าตอนนี้ระหว่างผมกับมันอยู่ในสถานะที่ควรจะเข้าไปแนะนำตัวกับครอบครัวของมันได้แล้ว

“แต่ว่า ..
“ไม่มีแต่ .. เราไม่ได้เลิกกันจริงๆสักหน่อย ทำไมต้องรอเวลาวะ ไปบ้านกูแค่แป้บเดียว ไอ้ซองจินมันไม่ทันสงสัยหรอกว่ามึงกำลังทำอะไรอยู่ ..” ไอ้คยูมันยื่นคำขาดแบบนั้น แล้วมันก็เดินห่างไกลออกไป เพื่อมัดมือชกให้ผมทำตามที่มันบอก

“หึ ไอ้บ้า .. มีแต่คนเพี้ยนแบบมึงเท่านั้นแหละ ที่ไม่เคยโกรธกูเลยไม่ว่ากูจะทดสอบหรือลองใจแค่ไหน ขนาดกูจะสั่งสอนน้องตัวเองด้วยวิธีแบบนั้น มึงก็ยังไม่โกรธกูสักนิด ” ผมว่าไล่หลังมันด้วยสีหน้าเปื้อนรอยยิ้ม แล้วก็เดินกลับเข้ามาในห้องและปิดประตูให้สนิทเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว
แล้วผมก็ยืนเอาหลังพิงประตู พร้อมกับฉีกยิ้มอยู่อย่างนั้นจนเกือบจะครึ่งชั่วโมง ..

ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้เข้าออฟฟิศเลยสักวัน เพราะผมต้องเรียนรู้ระบบงานของสาขาจากท่านประธาน แต่ถ้าวันไหนมีสัมภาษณ์งาน ผมก็จะเข้าออฟฟิศเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งมันไม่ได้มีบ่อยๆ ทำให้การพบตัวผมในช่วงนี้เป็นเรื่องยาก หากไม่มีการนัดแนะกันเป็นกิจจะลักษณะ
สำหรับการติดต่อพูดคุยเรื่องงาน ทุกคนในบริษัทสามารถติดต่อพูดคุยกับผมได้ เพราะผมมีโทรศัพท์ของทางบริษัทใช้เป็นการส่วนตัวแล้ว จึงไม่มีปัญหาในเรื่องของการติดต่อเมื่อผมต้องออกนอกสถานที่ ดังนั้นโทรศัพท์ของผมในช่วงนี้จึงปิดเครื่องตายต่อไป ..

“วันก่อนได้ข่าวว่าไอ้คยูมันพาไปหาพ่อกับแม่อีกรอบแล้วเหรอ ?” ผมเงยหน้ามองท่านประธาน ส่วนมือที่จับฆ้อนเตรียมจะทุบขนมชาลบอลเลนของโปรดของท่านประธานอยู่ก็มีอันต้องชะงักตามไปด้วย
“ครับ ..” ผมยิ้มและพยักหน้า จากนั้นผมก็ใช้ค้อนทุบขนมชาลบอลเลน ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเยอรมันอยู่สี่ห้าที จนคาดว่ามันน่าจะแตกออกเป็นชิ้นเล็กพอดีคำแล้ว ผมก็จัดการแกะห่อกระดาษออกพร้อมกับเลื่อนถาดที่ใช้สำหรับทุบขนมไปตรงหน้าของท่านประธาน

“แล้วพ่อแม่ว่ายังไงบ้าง ? น่าเสียดายวันนั้นพี่ติดประชุม พอเหนื่อยๆก็เลยอยากนอนค้างที่คอนโดใกล้ๆบริษัท โทรศัพท์ก็ไม่สนใจ พี่ถึงได้ตกข่าวอยู่คนเดียวเนี่ย” ท่านประธานหยิบขนมชาลบอลเลนชิ้นเล็กๆใส่ปากพลางถามผมอย่างตื่นเต้น
“วันนั้นก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เราแค่ทำความรู้จักกันเบื้องต้นเฉยๆ” ผมยิ้มพลางตอบคำถามของท่านประธานด้วยท่าทีเรียบนิ่ง

“แต่พี่ได้ข่าวว่า แม่ชวนให้มาอยู่ด้วยกันนะ ..” ท่านประธานยกยิ้มแซวผมจนหลุดมาดนิ่ง จนผมเริ่มทำตัวไม่ถูก
“เอ่อ .. ครับ ..

“ก็มาอยู่ด้วยกันก่อนสิ อีกตั้งนานกว่าจะออกตรวจสาขาจริงๆ”
“ตอนนี้ผมยังไม่สะดวกครับ ..” ผมตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้เหมือนที่ผมตอบกับพ่อแม่ของไอ้คยู ต่างกันแค่ผมให้ข้อมูลในเชิงลึกในบางส่วนกับพ่อและแม่ว่าทำไมผมถึงยังตอบรับคำเชิญชวนของท่านไม่ได้ ซึ่งท่านก็ชื่นชมผมใหญ่ที่มีความเด็ดขาดและเป็นผู้นำที่ดีให้กับน้องชายของตัวเองได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพวกท่านก็ไม่ได้ทราบรายละเอียดว่า ซองจินทำผิดเรื่องอะไร ..
เพราะผมกลัวว่าถ้าผมพูดมันออกไป ซองจินอาจจะถูกผู้ใหญ่มองไม่ดีได้ ผมก็เลยเก็บเป็นความลับเอาไว้ ..

หลังจากได้ทานขนมชาลบอลเลนกับท่านประธานจนอิ่มแปล้แล้ว ก่อนจะเลิกงานอย่างเต็มตัว ท่านประธานก็พาผมมาแวะดูสาขาแถวย่านฮงแดว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะไหนๆเราก็เดินทางดั้นด้นมาหาของกินหลังเลิกงานถึงที่นี่แล้ว เราก็ควรจะได้งานกลับไปด้วย ซึ่งผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ถ้าจะเลิกงานผิดเวลาเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อย..
“แล้วนี่จะกลับยังไง ?” ผมกับท่านประธานใช้เวลาตรวจดูสาขาไม่นานนัก พอหมดภารกิจท่านประธานก็หันมาถามผม

“ผมกลับรถไฟใต้ดินได้ครับ”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ไปส่ง พักอยู่ที่ไหนล่ะ ?” ท่านประธานส่ายหน้า พลางฉุดข้อมือผมให้เดินตามเธอไปที่รถ

“คอนโดของคยูฮยอนครับ” ผมตอบ ส่วนท่านประธานก็พยักหน้ารับเพื่อตอบตกลงว่าท่านจะไปส่งผมจนถึงคอนโดของไอ้คยูอย่างปลอดภัย
“ขอบคุณนะครับ สำหรับมื้อเย็นและขนมอร่อยๆ” ผมลงจากรถและโค้งตัวให้ท่านประธานอย่างนอบน้อม

“คนกันเองน่า เลยเวลางานแล้ว ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรหรอก ..” พี่สาวไอ้คยูทำหน้ายู่อย่างไม่พอใจ เห็นอย่างนั้นผมก็เลยยกยิ้มกว้างแล้วพยักหน้าตอบรับอย่างเข้าใจ
“ครับพี่ .. ขับรถดีๆนะครับ ..” ผมเริ่มพูดอย่างเป็นกันเองขึ้น จากนั้นผมก็ปิดประตูรถและยืนอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งรถส่วนตัวของพี่อาราขับเคลื่อนห่างไกลจากคอนโดของไอ้คยูจนลับตา ผมถึงได้กลับหลังหันและเดินเข้าไปในตัวอาคารสูงใหญ่ตรงหน้า ..

ครืด ครืด

ผมยืนมองวิวด้านนอกหน้าต่างหลังจากที่ผมเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จหมาดๆ ก็หันมาให้ความสนใจกับโทรศัพท์ของออฟฟิศที่ผมลืมปิดเครื่องไว้ ตอนนี้ไม่ว่าใครก็สามารถโทรเข้ามาได้ ผมลังเลอยู่นานว่าจะรับดีไหม แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจรับ เผื่อว่าคนปลายสายจะโทรเข้ามาสมัครงานเหมือนรายอื่นๆ
“อีซองมิน พูดครับ ..
“มิสเทค กูเอง ..” ผมชักโทรศัพท์ออกจากข้างหู เพื่อดูเบอร์โทรศัพท์ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจออีกครั้ง เพราะตอนแรกผมมองดูจนแน่ใจแล้วว่าเบอร์นี้ไม่ใช่เบอร์มันแน่นอน แถมยังเป็นเบอร์บ้านด้วย ซึ่งผมก็ลืมนึกไปว่าบางทีไอ้คยูมันอาจจะอยากประหยัดค่าโทรศัพท์ของมัน แล้วหันมาใช้โทรศัพท์บ้านก็เป็นได้ ..
“อื้อ ..” ผมทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา แต่สุดท้ายก็เริ่มเลื้อยนอนจนได้

“เดี๋ยวนี้มึงมีเวลาให้พี่กูมากกว่ากูอีก ไอ้สัส .. จะโทรหาแต่ละที กูแม่งก็สตั้นทุกที เพราะกูลืมไปว่ามึงปิดโทรศัพท์ ดีที่วันนี้มึงยังเปิดเครื่องทิ้งไว้สักเครื่องไม่งั้นกูคิดถึงมึงตายห่าแน่ ..” ไอ้คยูมันพูด ส่วนผมก็ได้แต่อมยิ้มกับคำว่าคิดถึงของมัน
“แล้วทำไมมึงไม่มาหากูล่ะ ใครไปล่ามโซ่มึงไว้ ?” ผมย้อนถามเสียงเบา

“สัส มึงยั่วโมโหกูแล้วไง .. คือที่กูไม่ไปหาก็เพราะกูกลัวว่าแผนมึงจะแตกป่ะ เห็นจะไปบ้านกูแต่ละทีกังวลชิบหาย แล้วพอกูจะโทรหามึงนะ ก็เสือกปิดเครื่อง ไอ้สัส ทีหลังมึงเปิดสักเครื่องเถอะ เครื่องไหนก็ได้ จะได้ไม่เป็นภาระต่อความคิดถึงของกู” ผมหน้าร้อนวูบกับคำบอกเล่าปนคำด่าของมันขึ้นมาทันที

“คยู คืนนี้มึงมานอนค้างกับกูไหม?” ผมร้องเรียกมัน หลังจากที่ต่างคนก็ต่างเงียบกันไปนาน
“ถามแบบนี้มึงไม่กลัวน้องมึงมาเจอหรือไง ความลับแตกนะมึง เดี๋ยวก็ได้เลิกกันจริงๆหรอก ..” ไอ้คยูมันถามเหมือนกับลองเชิง และมันก็ไม่ได้กลัวว่าความลับระหว่างเราจะแตกอย่างที่มันพูดด้วย ..
เพราะผมได้ยินเสียงกุกกักพร้อมกับเสียงกุญแจที่ดังกระทบกันเล็ดลอดมาตามสาย ..

“นี่มันก็ดึกแล้ว ซองจินคงไม่ออกมาเจอหรอก ..” ผมตอบ ซึ่งมันไม่ได้เป็นความจริงเลย เพราะในช่วงที่ผ่านมา ซองจินก็ออกจะนอนดึกซะด้วยซ้ำ แถมบางทีก็อยู่ข้างนอกบ้านจนดึกดื่น กว่าจะกลับเข้าบ้านทีไร ผมก็เข้านอนแล้วทุกที และถ้าหากผมจะยอมเปิดช่องโหว่ให้น้องบ้าง มันก็คงจะเป็นผลดีกับผมเหมือนกัน เพราะผมก็อยากพูดคุยกับเขาแบบเห็นหน้าเห็นตา เราสองคนพี่น้องจะได้เคลียร์กันให้รู้เรื่อง
และที่ผมไม่ยอมเปิดโทรศัพท์ก็เป็นเพราะผมต้องการจะกดดันให้ซองจินรู้ตัวว่าการกระทำของเขามันไม่โอเคเลยผมเป็นคนใจแข็ง ซองจินรู้ข้อนี้ดี เวลาเราสองคนพี่น้องทะเลาะกัน ผมจะเงียบไม่พูดไม่คุยกับซองจินเลย แต่ถ้าผมอยากจะหายโกรธ ผมก็จะหายโกรธของผมเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของซองจินด้วยว่าดีขึ้นกว่าเดิมไหม และถ้ายังไม่ดีขึ้น ผมก็จะมีอาการแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าหากเป็นไอ้คยูที่ทำตัวงี่เง่า ..
ผมคงวางตัวเรียบเฉยแบบนี้ไม่ได้แน่ ..

ผมนั่งบนโซฟากลางห้องพลางเหลือบมองนาฬิกาสลับกับประตูห้องอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งผมเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ตื่นขึ้นมาอีกที ไอ้คยูมันก็ยังเดินทางมาไม่ถึงคอนโดสักที ..
ในเมื่อผลลัพธ์มันเป็นแบบนี้ แล้วคำพูดของมันที่บอกกับผมว่า กูไม่กลัวหรอก ถ้าความลับมันจะแตก..เพราะยังไงน้องมึงก็ไม่มีสิทธิ์มาสั่งกูให้ทำโน่นทำนี่อยู่แล้ว ..ชีวิตกูเป็นของกู แต่ที่กูยอมเพราะกูตามใจมึง ..และน้องมึงก็ควรจะโดนสั่งสอนจริงๆ
คำตอบแบบนี้ มันไม่ได้แปลว่า ไอ้คยูมันจะมาหาผมที่ห้องหรอกเหรอ ?
ทำยังไงดีล่ะ ? ผมเหงา .. และผมก็คิดถึงมันด้วย

“กูนึกว่ามึงจะไม่มา ..” ผมรีบเดินมาที่ประตูห้องทันที เมื่อผมได้ยินเสียงคีย์การ์ดดังขึ้นเบาๆ และเมื่อประตูเปิดออกกว้างจนมองเห็นใบหน้าของผู้มาเยือนได้ ผมก็รีบพูดออกไปทันที ..
“มึงเรียกร้องหากูซะขนาดนี้ กูจะไม่มาหามึงได้ยังไงวะ ?” ไอ้คยูมันใช้มือบังคับปลายคางของผม ให้ยอมเงยหน้าขึ้นมองสบกับดวงตาของมัน จึงทำให้ผมหลบซ่อนความเขินอายจากคำพูดของตัวเองไม่ได้ ..

“ที่จริงก็ไม่มีใครล่ามโซ่กูไว้หรอก กูล่ามของกูเอง .. และถ้ามึงจะกรุณา ทีหลังมึงก็ช่วยบอกกูทีว่ามึงคิดถึง และอยากให้กูมาหามึงแค่ไหน กูจะได้มองข้ามความลับระหว่างเราไป ..” ไอ้คยูมันบอก พลางบีบปลายคางของผม คล้ายกับมันกำลังหมั่นเขี้ยวในความปากหนักของผมอยู่

“กูแค่อยากเปิดช่องโหว่ให้ซองจินบ้าง กูถึงอยากให้มึงมา ..” ผมแกล้งแถ ประมาณว่ามันน่ะคิดไปเอง
“อย่าแถไอ้สัส คิดถึงก็บอกคิดถึง อยากได้อะไรก็บอก กูไม่เคยขัดมึงอยู่แล้ว ..” ไอ้คยูมันด่า คล้ายกับมันรู้ทันว่าจริงๆแล้วผมไม่ได้แค่อยากจะเปิดโอกาสให้ซองจินตามตัวผมเจอเท่านั้น เพราะในเมื่อช่วงหลายวันมานี้ เราแทบไม่ได้คุยและไม่ได้เจอกันเลย สายตาของผมที่กำลังมองมันคงจะบอกความจริงไปเรียบร้อยแล้วว่า ผมน่ะคิดถึงมันมากแค่ไหน ..

“บอกไม่เคยจำ มองกูแบบนี้ตลอด ..” ไอ้คยูมันพูด พลางลูบข้างแก้มของผม จากนั้นมันก็ลากแขนผมให้เดินออกจากห้องทั้งๆที่ชุดนอนของผมมันไม่ได้เรียบร้อยเลย ในเมื่อตอนนี้ผมใส่เพียงแค่เสื้อเชิ้ตของมันตัวเดียว
“มึงจะพากูไปไหน ?” ผมถาม เมื่อไอ้คยูมันบอกผมเดินขึ้นบันไดชั้นแล้วชั้นเล่า จนผมเริ่มจะเหนื่อยหอบ

“เดี๋ยวก็รู้ ..” ไอ้คยูมันตอบ และมันก็ตั้งหน้าตั้งตาลากผมขึ้นมาจนถึงบนดาดฟ้าของคอนโดจนได้ จากนั้นมันก็เสียบคีย์การ์ดลงบนเต้าเสียบ แล้วประตูกระจกที่ปิดสนิทอยู่ก็สามารถเปิดออกได้ และทันทีที่มันเสียบคีย์การ์ดลงบนเต้าเสียบด้านใน โคมไฟที่วางตั้งอยู่ตามจุดต่างๆก็สว่างวาบขึ้น รวมถึงไฟที่ประดับประดาอยู่ในโซนต้นไม้ดอกไม้ด้วยก็เช่นกัน ..
“มึงพากูมาทำไม ? มึงจะบ้าหรือเปล่า นี่มันจะเที่ยงคืนแล้ว ใครเขาจะมาเล่นน้ำกันตอนนี้” ผมถามเมื่อไอ้คยูมันหันมายักคิ้วให้ผม

“ใครเขาไม่เล่นตอนนี้ก็ช่างเขาสิ ..” ไอ้คยูมันพูดพร้อมกับช้อนตัวผมขึ้นอุ้ม แล้วจากนั้นมันก็สาวเท้าเดินเข้ามาใกล้กับสระน้ำเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะมีไว้เพียงแค่ประดับประดาเพื่อความสวยงามเท่านั้น

ตู้ม!

ไอ้คยูมันหย่อนผมลงสระน้ำเล็กๆนั่นได้อย่างแม่นยำ จึงทำให้ผมรู้ว่าที่จริงแล้วสระน้ำเล็กๆสระนี้มันก็ลึกอยู่เหมือนกัน แถมน้ำก็ยังอุ่นๆอีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะดึกดื่นมากมายแค่ไหน ถ้าหากลูกค้าที่พักอยู่ที่คอนโดแห่งนี้อยากจะเล่นเมื่อไหร่ ก็สามารถขึ้นมาเล่นได้ตลอดเวลา ..
“มึงบอกให้กูมาหา .. แล้วมึงก็แต่งตัวแบบนี้ .. แถมยังมองกูแบบเมื่อกี้อีก .. มิสเทคมึงคิดว่ากูจะตบะแตกมั้ย ?” ไอ้คยูมันนั่งยองๆบนขอบสระ พร้อมกับกอดเข่าถามผมอย่างคาดคั้น

“ถึงมึงไม่ได้ตั้งใจยั่ว .. แต่กูก็คิดไม่ดีกับมึงไปแล้ว ..” ไอ้คยูมันรั้งเอวผมเข้ามาใกล้ พร้อมกับกระซิบชิดริมหูของผมอย่างแผ่วเบา จากนั้นมันก็กดริมฝีปากลงบนใบหูของผมให้ขนแขนมันลุกชันเล่นๆ

“มิสเทค .. มึงคิดถึงกูมากมั้ย มึงตอบมาคำเดียว แล้วกูจะทำให้มึงหายคิดถึงกูในคืนนี้ ..” ไอ้คยูมันทิ้งตัวลงนั่งบนขอบสระ ขณะที่สองขาของมันก็หย่อนลงในน้ำและวางอยู่ข้างลำตัวของผมที่มันออกแรงบังคับให้เข้ามายืนแนบสนิทกัน
“มาก ” ผมตอบพลางมองหน้ามันนิ่ง ทั้งๆที่หัวใจกำลังสั่นไหว และความเขินอายรวมถึงความรวนก็เริ่มจะเข้ามาทายทัก

“ตรงนี้เป็นพื้นที่ VIP ถ้ามีคนใช้แล้ว คนข้างนอกจะเข้ามารบกวนไม่ได้ ..” มันคยูมันบอกผม ขณะที่มันก็ค่อยๆขยับใบหน้าเข้ามาใกล้กับผมให้มากขึ้น และเมื่อมันมากพอแล้ว ริมฝีปากของมันก็แตะลงบนกลีบปากของผม จากนั้นมันก็เริ่มเคล้าคลึงกลีบปากของผมทั้งบนและล่างอย่างเพลิดเพลิน ส่วนผมก็ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของมันอย่างนั้น พร้อมกับหลับตาน้อมรับรสจูบหวานๆของมันแต่โดยดี ..
เมื่อผมมั่นใจแล้วว่า ..
การกระทำของเราจะไม่ทำให้เกิดการถูกตำหนิแบบครั้งนั้นอีก ..

แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแต่จูบละเลียดความหวานของเราก็ยังคงดำเนินต่อไป จนเมื่อความต้องการมันเพิ่มมากขึ้น ปลายลิ้นร้อนจึงเริ่มไล้เลียกลีบปากของผมที่ยังคงไม่เปิดต้อนรับความอุ่นหวานนั้นอย่างเอิกเกริกนัก และเมื่อผมยินยอมพร้อมใจแล้วว่าเราสองคนต้องการให้รสจูบมันลึกซึ้งกว่านี้ ผมจึงค่อยๆเปิดโอกาสให้ปลายลิ้นร้อนนั่นเข้ามาสำรวจทักทายกับปลายลิ้นเล็กของผมที่กำลังรอคอยการเย้าหยอกกันอย่างเคยคุ้น ..
สองมือของผมก็เริ่มจะไม่เป็นสุข เมื่อบทจูบอันร้อนแรงมันพาใจให้เพลิดเพลิน หากแต่ฝ่ามือของเจ้าของรสจูบนั่นกลับเอาแต่ลูบไล้แนวสะโพกของผมที่โผล่พ้นน้ำอย่างหมิ่นเหม่ ..

“อ..อื้อ ..” ผมครางแผ่ว เมื่อไอ้คยูมันถอนริมฝีปากออกห่างจากผมแล้ว แต่ฝ่ามือของมันกลับลุกล้ำความเป็นส่วนตัวตรงช่วงล่างของผมมากขึ้น และสุดท้ายผมก็ได้แต่ครวญครางในลำคอเท่านั้น เมื่อไอ้คยูมันประกบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง และมันก็ปิดท้ายด้วยการเริ่มรุกจูบผมอย่างร้อนแรง จนผมแทบจะขาดอากาศหายใจ ..
“แฮ่กๆ ..อ๊ะ ..” ผมหอบหายใจอย่างอ่อนแรง เมื่อไอ้คยูมันเต็มใจจะปล่อยให้ผมเป็นอิสระบ้างแล้ว แต่ไม่นานนัก มันก็เริ่มรบกวนผมอีกครั้ง เมื่อมือของมันเริ่มเลื้อยเข้ามาทักทายความเป็นผมที่มันเริ่มจะแสดงอาการ ตั้งแต่ตอนที่ไอ้คยูมันเริ่มปลุกเร้าอารมณ์เบื้องต้นของผมแล้ว ..

“เด็กดีของมึงตื่นแล้ว ..” ไอ้คยูมันบอก พร้อมกับเลื่อนตัวลงมายืนอยู่ในสระน้ำเล็กๆนี้ด้วยกัน ซึ่งคำพูดคำจาของมันทำให้ผมอายมาก ผมเลยค่อยๆขยับหนีฝ่ามือรุกเร้าของมัน ..
แต่สุดท้ายผมก็หนีไม่พ้น เมื่อตอนนี้วงแขนแข็งแรงของมันกำลังกางกั้นเขตแดนที่มันอนุญาตให้ผมมีสิทธิ์ยืนนิ่งๆได้ตามที่มันต้องการ ..

“เด็กดีของมึงต้องการกูนะโว้ยมิสเทค มึงจะหนีกูทำไม ..” ไอ้คยูมันด่าว่า พร้อมกับละปลายจมูกของมันลงบนลาดไหล่ของผม จนกระทั่งขึ้นมาถึงลำคอ และไม่นานมันก็ปรับเปลี่ยนมากดจูบสร้างร่องรอยบนผิวเนื้อของผม
“อึก ..อื้อ ..” ไอ้คยูมันล็อคคอของผมไว้ไม่ให้ขยับหนี จากนั้นมันก็เริ่มจูบไซร้ซอกคอของผมสลับกับสร้างร่องรอยไปตามจุดต่างๆตามแต่ใจมันจะต้องการ ขณะที่ช่วงขาของมันก็เริ่มแซกซอนเข้ามาแทรกกลางระหว่างขาทั้งสองข้างของผม

“อื้อ ..อ่า ..” ผมได้แต่ร้องครางอย่างเคลิบเคลิ้ม เมื่อไอ้คยูมันใช้ริมฝีปากของมันแหวกคอเสื้อตรงช่วงห่วงไหล่ ไปพร้อมๆกับมือข้างหนึ่งของมันที่ค่อยๆปลดกระดุมสามเม็ดแรกให้ออกจากรังดุม เพื่อให้ง่ายต่อการปลุกเร้าในระดับที่ต่ำลง และจากนั้นไอ้คยูมันก็เริ่มแต่งแต้มร่องรอยไปตามผิวกายของผมสลับกับการจูบอย่างอ่อนโยน ..
ไม่ว่าจะต้นคอ ไหปลาร้า หรือแม้แต่เนินไหล่ ..
ริมฝีปากของไอ้คยูก็เลือกที่จะสำรวจผิวกายของผมแทบทั้งสิ้น..

“นั่งข้างบน มึงจะได้รู้ไงว่าอากาศคืนนี้มันดีแค่ไหน ..” หลังจากที่มันปลดเปลื้องอาภรณ์เบื้องล่างของผมไปจนหมดแล้ว มันก็ดันผมให้ขึ้นมานั่งตรงขอบสระ พลางพูดจากวนประสาทเพื่อหวังจะให้ผมด่ามันเล่น
แต่เวลานี้ ตอนนี้ ผมไม่สามารถด่ามันได้ เพราะผมอายมากเมื่อไอ้คยูมันยกช่วงขาของผมขึ้นพาดไหล่ของมัน และมันก็โน้มใบหน้าลงมาใกล้กับ .. ความเป็นผม ราวกับว่ามันจงใจจะจูบตรงส่วนนั้นด้วยความเอ็นดู..

“ย..ยิ้มอะไร ?” ผมถาม พลางหันหน้าหนีสายตาและรอยยิ้มของมัน
“ยิ้มให้มึงอายมั้งมิสเทค ..” ไอ้คยูมันตอบอย่างกวนตีน แต่สุดท้ายผมก็ต้องสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เมื่อความอุ่นร้อนมันเข้ามาทักทายกับความเป็นผมเข้าอย่างจัง และมันก็ทำให้ผมเนื้อตัวสั่นรวมถึงแข้งขาก็เริ่มจะอ่อนแรง ..

“อื้อ ..อ๊ะ ..อ๊า ..” ผมแหกร้องอย่างไม่อาจอดกลั้น เมื่อไอ้คยูมันเฝ้าปรนเปรอส่วนนั้นของผมด้วยริมฝีปากของมันอย่างจัดจ้าน จนสมองของผมพร่าเบลอไปหมด ช่วงท้องรู้สึกวูบโหวงจนเผลอเกร็งแน่น เมื่อความหวามไหวเข้ามาทักทายไม่รู้จบ ..
“ค..คยู ..อื้อ ..อ๊ะ ..” ผมได้แต่ร้องเรียกชื่อของมันสลับกับครางหวามไหวครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่งมันช่ำชองในเรื่องพวกนี้ ผมก็ยิ่งรับศึกหนัก เพราะมันรู้วิธีที่จะทำให้ผมทั้งทรมานและมีความสุขไปพร้อมๆกันเป็นเวลาอันยาวนานจนกว่ามันจะสาแก่ใจ ..

“มึงเสียวเหรอ ร้องไม่หยุดเลย ..” เมื่อผมปลดปล่อยความสุขสมออกมาจนหมด ไอ้คยูมันก็เงยหน้าขึ้นมองผม พร้อมกับพ่นคำพูดชวนน่าอายนั่นออกมา ขณะที่หลังมือข้างหนึ่งของมันก็ยกขึ้นเช็ดตรงมุมปาก ที่มีของเหลวสีขาวขุ่นเปรอะเปื้อนเพียงเล็กน้อย ..
“สัส .. คนอย่างมึง ในเวลาแบบนี้ ถ้าไม่พูดเลยจะดีกว่า ..” ผมจำเป็นต้องข่มความอายเอาไว้ และเลื่อนตัวลงมายืนในสระน้ำด้วยกันกับไอ้คนปากดี จากนั้นผมก็จัดการปิดปากมันด้วยปากของผมซะ มันจะได้ไม่ต้องมาพูดจาให้ผมหน้าร้อนไปมากกว่านี้ เพราะไอ้คยูมันไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเลย ..
ในเมื่อหลักฐานของผมบนริมฝีปากของมัน ก็สร้างความเขินอายให้ผมจะแย่แล้ว ..

“วันนี้มึงร้อนแรงจังนะ มึงเรียกกูมาหาเพื่อสิ่งนี้เหรอ ?” ทันทีที่ผมปล่อยให้ริมฝีปากของมันเป็นอิสระ ไอ้คยูมันก็เริ่มพูดจายียวนใส่ผมอีกครั้ง ทั้งๆที่มันก็รู้ว่าผมไม่ได้เรียกมันมาเพื่อทำเรื่องแบบนี้ เพราะผมก็แค่อยากเจอหน้ามันบ้าง และอยากจูบกันบ้างเท่านั้น ..

ตุบ! ตุบ!

“สัส!” ผมรวนจนไม่อาจหาทางออกให้ตัวเองได้แล้ว จนต้องทำร้ายร่างกายของมันให้รู้ตัวว่าผมเริ่มรับมือกับมันไม่ไหวแล้ว
“กูไม่แกล้งมึงแล้วก็ได้ ..” ไอ้คยูมันรวบมือทั้งสองข้างของผมไว้ พร้อมกับกดริมฝีปากตรงข้ามแก้มของผม

“ทำให้กูหน่อยสิ เด็กดีของกูก็ต้องการมึงเหมือนกัน ..” ไอ้คยูมันรั้งฝ่ามือของผมให้แตะต้องส่วนสำคัญของมันอย่างแผ่วเบา ซึ่งมันทำให้ผมเกร็งค้าง เพราะตั้งแต่คบกับมันมา มันยังไม่เคยร้องขอให้ผมปรนเปรอให้มันสักครั้ง แต่สำหรับครั้งนี้มันกลับร้องขอผมอย่างออดอ้อน ..

“กูไม่เคยทำให้ใคร ..” ผมตอบปฏิเสธแบบเลี่ยงๆ
“มึงก็ทำให้กูสิ จะได้เคย .. นะ .. กูอยากมีความสุขเหมือนอย่างที่มึงมีไปแล้วบ้าง ..” ไอ้คยูมันลากผมมายืนใกล้กับขอบสระ ขณะที่มันก็ดันตัวขึ้นไปนั่งข้างบน

“มึงไม่ต้องใช้ปากก็ได้ ทำอย่างที่มึงเคยทำให้ตัวเองเถอะ ..” ไอ้คยูมันตอบ ซึ่งไม่ได้ช่วยให้ผมตัดสินใจได้ง่ายๆเลย แถมมันยังมองลงมาที่ผมที่ยืนอยู่ตรงหน้าของมันด้วยสายตาที่ชวนให้เขินอายมากกว่าเดิม พร้อมกับปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของมันแบบชิวๆอีกต่างหาก ..
ทำไมถึงนิสัยแบบนี้นะ

“ทำไมมึงต้องขออะไรที่มันทำใจยากจัง .. กูไม่ทำได้มั้ย ..” ผมขยับเข้าไปใกล้ พลางเขย่งปลายเท้าเพื่อให้ใบหน้าของผมพอดีกับลาดไหล่ของมัน จากนั้นผมก็กระซิบร้องขอให้มันเห็นใจด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ตามใจ .. ถ้าอย่างนั้นกูขอต่อจากเมื่อกี้เลยนะ ..” ไอ้คยูมันตอบพลางหอมศีรษะของผม แล้วก็ผลักตัวผมให้ออกห่างจากมัน เพื่อที่มันจะได้มองหน้าของผมได้ถนัดขึ้น ..

“อื้อ ..” ทันทีที่ผมตอบรับในลำคอ ไอ้คยูมันก็ลุกขึ้นยืน พร้อมกับส่งมือมาให้ผมที่ยังคงยืนแช่อยู่ในสระน้ำ
“อะไร ?” ผมถามอย่างสงสัย แต่ก็ยอมส่งมือไปให้มัน ตามการกระทำอันเรียกร้อง ..

“อาบน้ำ ..” ไอ้คยูมันตอบ แต่สายตาของมันก็สามารถบ่งบอกได้ว่า ผมกับมันเราคงไม่ได้ทำแค่อาบน้ำอย่างเดียว
“อืม ..” เมื่อผมขึ้นจากสระได้ ผมก็เดินตามแรงชักจูงของมัน ทั้งๆที่สภาพของผมมันดูไม่ได้ แต่เมื่อมาถึงขนาดนี้แล้วผมคงไม่ต้องสนใจเรื่องนั้นหรอกมั้ง

“ต่อกันในนี้กูมันเป็นส่วนตัวกว่า ..” เมื่อปลายเท้าของผมแตะลงบนพื้นกระเบื้องบริเวณห้องอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว ไอ้คยูมันก็จัดการล็อคประตูอย่างแน่นหนา พร้อมกับบอกเหตุผลให้ผมทราบทั้งๆที่มันไม่จำเป็น ..
ในเมื่อมันก็แทบจะเกินเลยกับผม ตั้งแต่ด้านนอกนั่นแล้ว ..

 “คิดถึงมึงนะ ..” ไอ้คยูมันช้อนตัวผมขึ้นอุ้ม พร้อมกับกระซิบบอกความรู้สึกอย่างแผ่วเบา อีกทั้งริมฝีปากของมันก็ยังจูบลงตรงข้างแก้มของผมด้วย
“อื้ม ..” ตอบรับในลำคออย่างเก้อเขินกับความอบอุ่นปนหวานละมุนที่ได้รับ

“เจ็บหน่อยนะ กูไม่ได้พกอะไรมาเลยสักอย่าง ..” มันวางผมลงตรงหน้าเค้านเตอร์ชาวเวอร์อาบน้ำ ซึ่งเป็นดีไซน์ที่แปลกตาสำหรับผมมาก จากนั้นไอ้คยูมันก็ทิ้งตัวลงนั่งบนเค้าน์เตอร์ชาวเวอร์ที่ทำจากหินอ่อน ไม่นานนักน้ำเย็นๆจากข้างบนก็ไหลลงสู่ข้างล่าง ..
“อื้อ” ผมตอบรับพลางขยับเข้ามาแนบชิดกับลำตัวของมันมากขึ้นตามแรงบังคับ จากนั้นผมก็แนบหน้าลงบนลาดไหล่กว้างๆของมัน ขณะที่ฝ่ามือหนากำลังลากเลื่อนจากข้างเอวของผมลงมาโอบประคองตรงข้างสะโพก

“อ๊ะ ..อึก ..” ผมสะดุ้งอย่างตกใจ เมื่อปลายนิ้วของมันเข้ามาทักทายในตัวผมอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว
“อย่าเกร็งสิ มึงไม่อึดอัดเหรอ ?” ไอ้คยูมันถาม พลางหอมหน้าหอมตาของผมอีกแล้ว ขณะที่ปลายนิ้วของมันก็อาศัยจังหวะที่ผมกำลังเพลิดเพลินกับสัมผัสอ่อนโยนของผม ค่อยๆคืบคลานเข้ามาในส่วนลึก

“อ๊า ..อื้อ ..” ผมร้องครวญครางอย่างเสียวซ่าน เมื่อปลายนิ้วเรียวยาวของไอ้คยูมันชำแหละลึกเข้ามาทักทายกับจุดไวสัมผัสของผม จนส่งผลให้ความหวามไหวแล่นพล่านไปทั่วตัว
“อึก ..อ๊ะ ..อ๊า ..อื้อ ....คยู ..อ๊ะ ..” ยิ่งปลายนิ้วของมันปรนเปรอช่องทางด้านหลังของผมให้สัมผัสกับความสุขสมเสียวซ่านมากเท่าไหร่ เสียงครางไหวของผมก็ยิ่งดังมากขึ้นเท่านั้น

“อ๊ะ ....คยู ..อื้อ ....เสียว .. อ๊า ..” ไอ้คยูมันดันผมให้ขึ้นไปนั่งบนเค้านเตอร์ชาวเวอร์แทนที่มัน จากนั้นมันก็ออกแรงบังคับให้ผมเอนตัวลงแบบกึ่งนั่งกึ่งนอน พร้อมๆกับมือข้างหนึ่งของมันที่กำลังปรับวาล์วน้ำสองอันตรงกลางให้ปิดสนิทลง เพื่อที่ผมจะได้ไม่สำลักน้ำไปซะก่อน
จนเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่มันต้องการ ฝ่ามือหนาทั้งสองข้างก็จับยึดสะโพกของผม พร้อมกับแยกเรียวขาของผมออกกว้าง และมันก็เริ่มลงลิ้นสัมผัสตรงช่องทางด้านหลังของผมอีกครั้งอย่างไม่มีจังหวะว่างให้ผมได้มีโอกาสหายใจหายคอได้ทันบ้างเลย ..

“แฮ่ก ๆ .. อื้อ ..อ๊ะ .. อ๊า ” ผมได้แต่หอบหายใจปนครางครวญอย่างหวามไหว เมื่อไอ้คยูมันคงไม่เลิกปรนเปรอความเสียวซ่านให้ผมสักที และยิ่งปลายลิ้นร้อนของมันเข้ามาทักทายจุดไวสัมผัสได้ลึกล้ำมากเท่าไหร่ ร่างกายของผมก็ยิ่งดิ้นพล่านมากเท่านั้น แต่เพราะแขนขาของผมตอนนี้มันไม่มีแรงเอาซะเลย คล้ายกับว่าเรี่ยวแรงพวกนั้นมันถูกลิดรอนจากคนที่กำลังเพลิดเพลินกับการมอบความสุขให้กับผม จนทำให้ร่างกายของผมออกอาการพยศต่อสัมผัสชวนสั่นสะท้านนั้นมากไม่ได้ ..  
“มึงต้องการกูมั้ย ?” ห้วงแห่งอารมณ์อันหวามไหวราวกับกลายเป็นความฝัน เมื่อไอ้คยูมันหยุดยั้งทุกอย่างลง เพื่อโน้มตัวลงมากระซิบกับผมที่กำลังนอนอยู่ใต้ร่างของมันด้วยสภาพที่ยับเยินจนดูแทบไม่ได้

“ต้องการ ....เราต้องการคยู ..อึก ..เข้ามาเถอะนะ ..” ผมกอดคอมันไว้ พร้อมกับใช้สรรพนามออดอ้อนมันอย่างที่ไม่เคยเป็น
“อ้อนเหรอ ?” ไอ้คยูมันถาม พลางลูบหัวผมอย่างใจเย็น ทั้งๆที่มันก็รู้ว่าตอนนี้ผมไม่ได้ต้องการให้มันใจเย็น

“อื้ม ..เราอ้อน ..” ผมตอบ จากนั้นมันก็ถอยห่างจากตัวผม พร้อมกับฉุดให้ผมลุกขึ้นมานั่งดีๆ
“ระหว่างมึงกับกูไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรแล้วเนอะ ..” ไอ้คยูมันบอก พร้อมกับรั้งผมลงมายืนใกล้ๆมัน แล้วจากนั้นมันก็จัดการให้ผมยืนหันหน้าเข้าเค้านเตอร์ชาวเวอร์ ขณะที่มันกำลังปลดเปลื้องช่วงล่างของมันจนเปลือยเปล่า

“แต่ถ้าไม่มี กูว่ามันคงเจ็บ ..” ไอ้คยูมันบอกพร้อมกับกอดผมเอาไว้แน่นๆ จึงทำให้ช่วงล่างของผมกับมันแนบสนิทกัน เลยทำให้ผมรับรู้ว่า ณ ตอนนี้ไอ้คยูมันเองก็ทรมานไม่ต่างจากผมเหมือนกัน
“สบู่น่าจะช่วยมึงได้ ..” ไอ้คยูมันผละตัวออกห่างจากผม แล้วก็เดินไปหยิบขวดสบู่แบบกดตรงอ่างล้างหน้ามาหาผม เท่านั้นผมก็รู้แล้วว่ามันกำลังจะทำอะไรเป็นลำตัวต่อไป

“อ๊ะ .. ..เจ็บ ..คยู ..อึก ..กูเจ็บ ..” ผมเผลอร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อไอ้คยูมันเปลี่ยนจากชโลมสบู่เหลวลงบนตัวตนของมันมาเป็นช่องแทนอ่อนไหวของผมแทน จากนั้นมันก็ส่งเด็กดีของมันที่เริ่มจะไม่รักดีเข้ามาทักทายในตัวผม จึงทำให้ผมรับรู้ถึงความอุ่นร้อน และคับแน่นจนความเจ็บแสบเริ่มเข้ามาแทนที่ ไอ้คยูมันก็เลยทำได้แค่ยืนโอบกอดผมจากข้างหลังอย่างสนิทแนบเพื่อรอเวลา ..
“ดีขึ้นไหม ?” ไอ้คยูมันจูบท้ายทอยของผม พร้อมกับใช้สบู่สร้างความเรียบลื่นให้ช่วงล่างเพิ่มขึ้นอีก จากนั้นมันก็เริ่มขยับทีละนิด จนกระทั่งผมเริ่มจะโอเค มันถึงได้ขยับกายล้ำลึกเข้ามาในตัวผม จนเราสองคนเป็นหนึ่งเดียวกัน

“อื้อ ..อ๊ะ ..อ๊า ..” ผมครางหวามไหวทุกครั้ง เมื่อเด็กดีของมันเข้ามาทักทายกับจุดไหวสัมผัสของผมแทบจะทุกครั้งที่มันขยับไหว ซ้ำยังมอบสัมผัสกระแทกกระทั้นอย่างรวดเร็วและหนักหน่วงขนาดนี้ จะไม่ให้ผมครางลั่นได้อย่างไร
“อืม ..อ่า ....มิสเทค ..” ไอ้คยูมันครางครวญเสียงต่ำ เมื่อมันก็เริ่มจะสุขสมจนตัวลอย ขณะที่ร่างกายของเรากำลังขยับไหวไปตามจังหวะรับส่งครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างพร้อมเพียง

“อ๊ะ ....เสียว ..อื้อ ....คยู ..” ผมส่ายหน้า พลางยันฝ่ามือตรงหน้าเค้าน์เตอร์ เพื่อเป็นหลักยึดของแข้งขาที่กำลังจะอ่อนแรง
“อ๊า ..อ๊ะ ..อ๊ะ อ๊าาาาาาาา” เป็นเวลาเนิ่นนานที่เราสองคนขยับไหวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และในที่สุดปลายทางฝันก็เดินทางมาถึง จากนั้นไอ้คยูก็เป็นฝ่ายเดินตามผมมาไม่ห่าง

“แฮ่กๆ” ผมซบหน้าลงไปกับเค้านเตอร์ชาวเวอร์อย่างรวดเร็ว โดยที่ไอ้คยูมันก็รั้งตัวผมเอาไว้ไม่ทัน
“หายคิดถึงกูหรือยัง จะได้อาบน้ำนอน ..” ไอ้คยูมันถอดถอนตัวตนของมันออกห่างจากผม แล้วจากนั้นมันก็โน้มใบหน้าลงมากระซิบแถมผม ขณะที่มือข้างหนึ่งก็ลูบหัวผมอย่างแผ่วเบา ..

“หายแล้ว .. แต่เราเดินไม่ไหว .. เราเจ็บ ..” ผมบอกอย่างอ้อนๆ แล้วก็ประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากของมัน
“ไม่เป็นไร พออาบน้ำเสร็จ ..เดี๋ยวกูอุ้มมึงกลับที่ห้อง ..” ไอ้คยูมันบอกพร้อมกับประคองผมให้ขึ้นไปนั่งบนเค้าน์เตอร์อาบน้ำอย่างทุลักทุเลเพราะผมเจ็บช่วงล่างมากๆ และพออาบทำความสะอาดด้วยฝีมือของมันเสร็จ มันก็เดินไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำที่ทางคอนโดพับเรียงเป็นตั้งตรงมุมข้างประตูมาใส่ให้ผม จากนั้นมันถึงจัดการกับตัวของมันเองบ้าง ..

ผมที่เหนื่อยจากกิจกรรมเมื่อครู่ก็เริ่มเคลิ้มจะหลับ แม้ว่าจะมีผู้ชายอย่างมันมานั่งอาบน้ำอยู่ตรงหน้าก็ตาม กว่าจะรู้สึกตัวตื่นอีกที ไอ้คยูมันก็อุ้มผมลอยคว้างอยู่กลางอากาศแล้ว
“ช่วยกูถือหน่อย ..” ไอ้คยูมันพยักเพยิดไปทางเก้าอี้ที่ผมใช้เป็นที่พักพิงเมื่อครู่ จึงทำให้ผมมองเห็นถุงพลาสติกที่เอาไว้ใส่เสื้อผ้าเปียกๆ เอาไว้หิ้วกลับห้อง ซึ่งในนั้นก็ดูจะมีเสื้อผ้าทั้งของผมและของมัน ถุงมันถึงได้อ้วนกลมขนาดนี้ และก่อนที่ไอ้คยูมันจะอุ้มผมเดินออกจากบริเวณนี้ ผมก็ไม่ลืมจะเหลือบมองไปยังบริเวณสระว่ายน้ำ เพื่อสำรวจว่ามันได้เก็บของใช้ส่วนตัวของผมที่ตอนแรกมันเห็นว่าเกะกะตา ถึงได้ถอดทิ้งขว้างเอาไว้มาด้วยหรือเปล่า
จนกระทั่งสายตาสำรวจพบกับความเรียบร้อยของสถานที่ ผมก็สบายใจ ..
ผมจึงนอนหลับไปทั้งๆที่ผมยังอยู่ในอ้อมกอดของมันแบบนั้น ..



  <-·´¯`·.¸¸.·´¯`·._.·`·.¸¸.·´¯`·._.·`·.¸¸.·´¯`·._.·´¯`·.¸> 



ตอนพิเศษจะยาวกว่าเรื่องหลักแต่ละตอนตามสไตล์เดิม อ่านตอนนี้หวังว่าจะเข้าใจอะไรมากขึ้น และตอนต่อไปจะเข้าใจมากกว่านี้ในเหตุผลของทั้งซองจินและมิสเทค ส่วนฉากไปอยู่เกาะตามที่คนอ่านอยากเห็น เราจะมีสเปให้ค่ะ หวังว่าจะเต็มอิ่มกับสเปนะ อาจจะไม่เยอะเท่าน้องแฟนแต่ก็ไม่น้อยเกินไป จบเคลียร์แน่ค่ะ 
ปล. เรายังไม่ได้ตรวจคำผิดนะ นั่งปั่นมาหลายวันแล้ว เพิ่งจะเสร็จ T^T

schneeballen
ขนมชาบอลเลน เป็นขนมที่ทำมาจากแป้ง กรรมวิธีของมันคือ การทำแป้งเป้นเส้นๆ เอามาปั้นรวมกันไว้เป็นก้อนกลมๆ จากนั้นก็เอาไปทอด แล้วก็เคลือบรสชาติต่างๆ มีตั่งแต่ ช๊อกโกแลต , ไวท์ ช๊อกโกแลต , สตอเบอร์รี่  หรือ จะโรยถั่วก็มี

ใครสนใจลองไปอ่านบล็อคดูได้ค่ะ > ชาบอลเลน
ที่เกาหลีก็มีขนมชนิดนี้ขายค่ะ อยู่ในย่านฮงแด

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น