วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557

[Fic KyuMin] Mistake 9

Mistake

Mistake 9

                ผมกับไอ้มิสเทคกว่าจะได้ฤกษ์ลุกออกจากเตียง ก็ปาเข้าไปสิบเอ็ดโมงแล้ว ที่เป็นอย่างนั้นไม่ใช่ว่าเราสองคนตื่นสายหรืออะไรหรอก ประเด็นมันอยู่ที่ว่า
ผมกับไอ้มิสเทคต่างคนต่างก็ขี้เกียจลุกซะมากกว่า ..
               
                “กูอยากเล่นเจ็ตสกี” ผมชะงักมือที่กำลังจะโยนกุ้งเผาเข้าปาก เพื่อจะได้เงยหน้ามองไอ้มิสเทคที่มันกินจนอิ่มแล้ว แต่กลับเอาแต่นั่งมองไปยังท้องทะเลในยามสาย  
                “เอาจริง ?” ผมถามย้ำกับมันอีกครั้ง เมื่อมองดูแดดแล้ว แม่งก็แรงไม่เบาเลย ไม่รู้ไอ้มิสเทคมันอารมณ์ไหนถึงได้มองข้ามเรื่องนี้ไป ทีวันนั้นล่ะไม่ยอมเล่นน้ำ แต่วันนี้เสือกอยากเล่นเจ็ตสกี ..
               
                “เออ .. มึงก็รีบๆแดกดิ ..” ดูมัน .. จะเร่งกูทั้งที พูดจามะนาวไม่มีน้ำเลย
                “มึงอยากเล่นก็ลงไปก่อนดิ ..” ด้วยความหมั่นไส้ส่วนตัว ผมเลยประชดมันซะ!
แต่กูแม่งโคตรพลาด!  ไอ้กิ๊กเฮงซวยมันรีบสะบัดก้นลุกจากเก้าอี้ทันทีที่กูบอก ..
ห่าเอ้ย รู้บ้างมั้ยว่ากูประชด

ผมนั่งกินมื้อเช้าค่อนไปทางมื้อกลางวันของผมต่อ โดยที่ผมก็เอาแต่อมยิ้มกับท่าทางดีใจจนปิดไม่มิดของไอ้มิสเทค เพราะขนาดกูประชดแม่งก็ยังไม่รับรู้
สงสัยแม่งจะอยากเล่นจริงๆ ไม่งั้นได้ด่ากูหน้าแหกไปนานละ ..   

ผมส่ายหัวและหยุดยิ้มเพ้อถึงไอ้มิสเทค แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ที่มันทิ้งเอาไว้อย่างไม่ใยดีมาไว้ข้างๆตัว จากนั้นผมก็หันมาจัดการเก็บเศษซากมื้อเช้าที่เหลืออยู่ให้หมดด้วยความเสียดาย อยู่ๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทำความรู้จักด้วย เธอมากับกลุ่มเพื่อนที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากโต๊ะของผมสักเท่าไหร่ เธอเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัว และย้อนถามชื่อเสียงเรียงนามของผม
ตลอดเวลาที่เธอนั่งอยู่ทางฝั่งตรงข้าม บนเก้าอี้ที่ไอ้มิสเทคมันเคยนั่ง เสียงร้องแซวจากเพื่อนๆของเธอก็ดังขึ้นไม่ขาดสาย ผมก็ได้แต่ยิ้ม ส่วนเธอก็หันไปเอ็ดเพื่อนๆอยู่หลายหน
มองดูแล้วก็น่ารักดี ..  
แต่เธอเล่นเข้ามาหากูก่อนแบบนี้ ภาพที่เห็นแม่งต้องเป็นภาพลวงตาชัดๆ

“ผมไปก่อนนะครับ ..พอดีติดธุระ ..” หลังจากเธอแจกเบอร์โทรให้ผมจนเรียบร้อยแล้ว ผมก็เลี่ยงที่จะแจกเบอร์โทรของตัวเองโดยการลุกขึ้นยืน และยัดกระดาษแผ่นเล็กไว้ในกระเป๋ากางเกงแบบไม่ได้ใส่ใจนัก พร้อมกับชิ่งไปจ่ายเงินถึงเค้าน์เตอร์คิดเงินด้วยตัวเอง จนกระทั่งจัดการค่าเสียหายจนเรียบร้อยหมดแล้ว ผมถึงเดินออกจากร้าน โดยเลือกเส้นทางที่มุ่งตรงไปยังที่พัก เพื่อเอากระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์ทั้งของผมและไอ้มิสเทคไปเก็บ จะได้ไม่เป็นภาระ
เมื่อเดินมาหน้าหาด ผมก็กวาดตามองหาไอ้มิสเทค แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ คาดว่าป่านนี้มันคงจะสนุกอยู่กลางทะเลแล้วมั้งนั่น คิดได้อย่างนั้นผมก็เลยเดินไปติดต่อขอเช่าเจ็ตสกีด้วยเงินที่นำติดตัวมาน้อยนิด

บอกตามตรง .. ความสุขที่ผมได้สัมผัสอยู่นี้ มันทำให้ผมไม่อยากกลับโซลเลยว่ะ ..ถ้าดักดานอยู่ที่นี่ได้โดยไม่ต้องใช้เงิน และไม่ต้องกินต้องแดก กูจะอยู่แม่งจนตายเลย!
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมีไอ้มิสเทคอยู่ด้วยนะเว้ย!

“อ่อน ..” ไอ้ห่า .. เสียงแบบนี้มีคนเดียวเลย ไม่ต้องหันไปมองกูก็รู้ .. สัส .. แล้วแม่งก็ดีดน้ำมาเต็มๆหน้ากูเลย
“เล่นเชี่ยไร อันตรายนะมึง ..” ผมด่ามันกลับ แต่มันกลับทำหูทวนลม แล้วก็ออกตัวทิ้งห่างจากผมไปเลย ..
คือมึงครับ กูขับไม่แข็ง เรื่องกีฬากูอ่อนอย่างมึงว่า ….
แล้วไม่ทราบว่ามึงจะนำกูออกไปกลางทะเล หาสวรรค์วิมานอะไร !

ผมยอมแพ้ไอ้มิสเทคมันแล้ว ปล่อยให้แม่งสนุกไปคนเดียวเถอะ กูกลับไปนอนตายบนฝั่งยังดีกว่า ห่าเอ้ย แม่ง ชอบแกล้งขับปาดหน้ากู หัวใจกูแทบวาย เท่านั้นไม่พอ เสือกดีดน้ำใส่กูอีก
เลิกๆ กูยอมเสียค่าเช่าฟรีๆ แบบไม่คิดเสียดายเลยดีกว่า!

“เชี่ย! ทำไมกูขยับตัวไม่ได้วะ ..” ผมบ่นอย่างหงุดหงิดทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา คือเรื่องของเรื่องไอ้มิสเทคแม่งยังสนุกกับเจ็ตสกีไม่เลิก ผมที่นั่งเขี่ยทรายรอจนตัวแข็งก็เลยนอนหลับแม่งกลางหาดซะเลย นาทีนั้นกูไม่สนแล้วว่าใครจะมองยังไง อารมณ์คือง่วงแล้วก็เซ็งไอ้มิสเทคมันด้วย ชอบแกล้งกูเหลือเกิน ..
“หึหึ ..” เสียงหัวเราะกวนตีนดังเบาๆอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลผมนัก พอรู้อย่างนี้แล้ว ผมก็รีบลืมตาขึ้นมาทันที ภาพที่เห็นทำเอาผมแทบควันออกหู!

“มิสเทคมึงเล่นเชี่ยไร ลงไป .. ” ผมดิ้นอย่างยากลำบาก พลางพูดสั่งมันเสียงแข็ง ก็ดูแม่งดิ เล่นเอาทรายมากลบตัวผมจนกลายเป็นดักแด้ เท่านั้นไม่พอเสือกขึ้นมานั่งบนตัวกูอีก แล้วท่านั่งแม่งจะสบายไปไหน ไขว่ห้างซะด้วย นี่แม่งคิดว่ากำลังนั่งกินลมชมวิวบนโขดหินหรือไง สัส!
กูหนัก กูไม่อิน มึงเข้าใจมั้ย!

“ยิ้มเชี่ยไร มึงเลิกยิ้มเดี๋ยวนี้ ..” ผมถลึงตาใส่มัน เพราะนี่คือทางเดียวที่ผมจะสู้มันได้
“หึ ..” ดูแม่ง พอกูบอกไม่ให้ยิ้ม เสือกหัวเราะกวนตีนใส่กูอีก ไอ้มิสเทค มึงนะมึง ..

“กูเพื่อนเล่นมึงเหรอมิสเทค .. แม่ง .. มึงช่วยทำตัวให้เหมือนกิ๊กกูทีดิ๊ ..” ถ้าขากูไม่จมลงอยู่ใต้ผืนทรายล่ะก็นะ กูจะตวัดตัวมึงเข้ามากอดให้กระดูกแตกเลย สัส คนเชี่ยไรน่าหมั่นไส้ชิบหาย!
“แล้วกูต้องทำตัวยังไงวะ ไหนมึงช่วยบอกกูหน่อย..” ไอ้มิสเทคมันก้มหน้าลงมาจ้องตากับผม ขณะที่คอเสื้อยืดอันแห้งสนิทของมันก็ อืม
กว้างชิบหายเลย

….
“อาบน้ำเหอะ .. เหนียวตัวแล้วว่ะ ..” อ้าวเฮ้ย! มึงเดินออกไปตัวเปล่าอย่างนั้นได้ยังไงวะ ..
แล้วกูล่ะ .. มึงกล้าทิ้งกูได้ยังไงมิสเทค
เดี๋ยวเถอะมึง เดี๋ยวกูเอาคืนให้เด็ดดวงแน่!

ผมรีบเดินกลับที่พักด้วยความอับอายขายขี้หน้า เกิดมาชีวิตนี้กูยังไม่เคยต้องให้ผู้หญิงมาช่วยกันขุดกูขึ้นจากกองทรายในสภาพนี้เลย ทุเรศชิบหาย ..แต่พอเดินมาจนถึงหน้าประตูห้อง แล้วมองเห็นไอ้มิสเทคมันนั่งก้มหน้ากอดเข่าเพราะเข้าห้องไม่ได้ ทำไมกูต้องยิ้มวะ ..
“ไงล่ะ .. แกล้งกูดีนัก อดเข้าห้องเลยไง ..” ผมใช้เท้าเขี่ยข้างแขนของไอ้มิสเทค พลางใช้มือซ้ายล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบคีย์การ์ดมาเปิดห้อง ..

“สัส!” ไอ้มิสเทคมันเงยหน้าขึ้นมาด่า เมื่อเห็นว่าผมใช้อะไรเขี่ย แล้วก็เดินตึงตังเข้าห้องไปทันที ส่วนผมก็ได้แต่อมยิ้มและเดินตามเข้าห้องอย่างอารมณ์ดี ..
“รอด้วยดิ ..” ผมรีบคว้าผ้าเช็ดตัวแล้ววิ่งไปขวางประตูห้องน้ำ เพื่อไม่ให้ไอ้มิสเทคมันชิ่งปิดประตูหนี ..

“เข้ามาทำเชี่ยไร ออกไป ..” ไอ้มิสเทคมันทำหน้าบึ้ง พลางใช้ฝ่ามือผลักอกผมให้ถอยห่างจากตัวห้องน้ำ แต่มีหรือกูจะยอม
“อย่ามาทำเป็นไล่กูด้วยสีหน้ามึนๆ.. มึงจำไม่ได้เหรอว่ามึงชวนกูอาบน้ำ ..” ผมยกยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่มัน ขณะที่ผมก็เริ่มไล่ต้อนไอ้มิสเทคให้ถอยห่างจากบานประตู จากนั้นผมก็ใช้เท้าปิดประตูห้องน้ำซะ และเริ่มเดินเข้ามาประชิดตัวไอ้มิสเทคมากขึ้นเรื่อยๆ

“ปล่อย .. จะกอดทำเชี่ยไร ..” ไอ้มิสเทคมันถอยจนหลังชนกระจกที่สามารถมองเห็นท้องทะเลสีฟ้าครามที่อยู่ด้านหลังที่พักของเราได้ ..
“วันนี้มีคนมาจีบกูด้วย ..” ผมซุกใบหน้าลงกับลาดไหล่ของมัน

“แล้วไง ..” ไอ้มิสเทคมันย้อนถามเสียงแข็ง ขณะที่มันก็เริ่มดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของผม
“ไม่แล้วไง .. แต่เขาให้เบอร์กูมาด้วย ..” ผมพูดพลางคว้าข้อมือของไอ้มิสเทคมาซุกลงในกระเป๋ากางเกง

“ชอบก็โทรไปดิ ..
“กูโทรจริงๆนะ ..” ผมเงยหน้าขึ้นมาจ้องตากับไอ้มิสเทค แต่จ้องได้แป้บเดียว มันก็หันหน้าหนี ราวกับจะหลบตาผม ..
หึ .. มึงมันปากแข็ง ..
ที่แท้ก็ใจตรงกันกับกูล่ะไม่ว่า ..

“มิสเทค .. มึงหึงกู ใช่มั้ย ?” ผมใช้มือข้างซ้ายดันใบหน้าของไอ้มิสเทคให้มามองจ้องกัน ขณะที่มืออีกข้างก็ออกแรงบังคับให้ไอ้มิสเทคมันหยิบกระดาษที่คาดว่ามันคงจะยุ่ยคากระเป๋ากางเกงไปแล้ว ..
“เปล่า ..

“มึงแก้ตัวไม่ขึ้นเลย .. คิ้วขมวดซะขนาดนี้ ..” ผมยกยิ้ม พลางดึงมือมันออกจากกระเป๋ากางเกง

“เบอร์เขากูยังไม่สนใจจนปล่อยให้มันยุ่ยเลย แล้วมึงคิดว่ากูจะโทรไหม ?” ผมหรี่ตาถาม พลางโยนเศษกระดาษนั่นทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดี ..
“ไม่รู้ ..กูจะอาบน้ำ ..” ไอ้มิสเทคมันผลักอกผมออก แล้วก็เดินไปที่มุมอาบน้ำอันมิดชิด
แต่คือแม่ง! ถอดเสื้อต่อหน้าต่อตากูเลย
ตายกูตาย .. ใจกูสั่นเชี่ยๆ

สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายต้องยอมแพ้ และรีบเดินออกจากห้องอาบน้ำเป็นการด่วน ขณะที่ฝ่ามือข้างหนึ่งก็กอบกุมหน้าอกข้างซ้ายของตัวเองเอาไว้แน่น ..
จังหวะการเต้นของหัวใจ มันดัง ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ .. ราวกับจะระเบิดออกมาเลย
แค่เพียงหลับตา ภาพเมื่อครู่ของไอ้มิสเทคก็ลอยเข้ามาในหัว ..

“กูกำลังจะบ้าตายแล้วโว้ยยยยยยยยย ” ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียง พลางร้องตะโกนออกมาเพื่อหวังจะให้ความรู้สึกที่เรียกว่า แพ้ทางไอ้มิสเทค มันได้ปลดปล่อยออกมาบ้าง

“ไม่ใช่ว่ามึงเป็นบ้ามานานแล้วเหรอวะ ?” ผมลุกขึ้นนั่ง พลางมองตรงไปยังไอ้มิสเทคที่ยืนพิงขอบประตูห้องน้ำอย่างเคืองๆ
“ปากมึงนี่นะ ..” ผมด่ามันอย่างหมั่นไส้ แล้วก็ลุกขึ้นเดินตรงไปยังห้องน้ำ จากนั้นก็ผลักไอ้มิสเทคที่ยังคงยืนพิงประตูไม่เลิก

“เอ๊ะ มึงนี่ ..
“อะไร.. กูจะอาบน้ำ หรือว่ามึงสนใจจะดูกูแก้ผ้าอาบน้ำล่ะ หืม ?” ผมย้อนถามไอ้มิสเทคที่ยังคงยืนปักหลักอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน
เอาดิ กวนตีนกูดีนัก เดี๋ยวกูจะยั่วแม่งให้หวั่นไหวร้องหาแต่กูเลย สัส!

“พ่อง!” เต็มๆหน้ากูเลย แม่ง!
“มึงเขินเหรอวะ มิสเทค .. ” ผมร้องแซวไอ้มิสเทคที่เดินไปยังส่วนของห้องนอนแทบจะทันที

“เปล่า!” มันยังคงเถียง
“ปากแข็งเนอะคนเรา ..” ผมล้อมัน ก่อนจะปิดประตูห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำอย่างเป็นกิจจะลักษณะเสียที ..

….
“มึงน่ารักว่ะมิสเทค กูควรทำยังไงกับมึงดีวะ ..

<-·´¯`·.¸¸.·´¯`·._.·`·.¸¸.·´¯`·._.·`·.¸¸.·´¯`·._.·´¯`·.¸>


วันหยุดเมื่อไหร่วันนั้นมีฟิคเนอะ คึคึ มิสเทคเริ่มออกอาการแล้ว ? คยูก็ได้ใจไปดิ แต่ไม่เคยเอาคืนมิสเทคได้เลย มีแต่โดนแกล้งให้หัวปั่นตลอด น่าสงสาร 5555
 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น