เพาะรัก
✈
18 ✈
“คือแบบ กูไม่น่ามาเช่าอยู่ชั้นสองเลยนะว่ามั้ย” อีฮยอกแจบ่น
เมื่อกว่าจะก้าวเดินขึ้นบันไดได้แต่ละขั้นมันก็ช่างยากเย็นดีเหลือเกิน
เพราะขาข้างนึงก็ไม่ปกติ ส่วนแขนอีกข้างนึงก็ไม่ปกติ
และนี่ก็คือเหตุผลที่เพื่อนรักของผมมันอิดออดไม่ยอมกลับมานอนพักรักษาตัวที่ห้องสักที
“คนเราก็ไม่ได้รู้อนาคตล่วงหน้าป่ะวะ
?”
ผมย้อนถามเพื่อนสนิท ขณะที่สองมือก็ประคองมันด้วยความใจเย็น
“ว่าแต่มึงเถอะ
ระหว่างที่กูไม่อยู่เป็นก้าง มึงกับเขาพัฒนากันไปถึงขั้นไหนแล้ว ?” อีฮยอกแจถามอย่างสอดรู้สอดเห็น
“…”
ผมหันหน้าหนีทำเป็นไม่ได้ยินที่เพื่อนรักถาม เพราะจู่ๆ ก็เกิดเขินอายขึ้นมา
“มึงอย่ามาเนียนทำเป็นไม่ได้ยินที่กูถาม.. คบกันแล้วดิ ?” ในที่สุดอีฮยอกแจก็จับไต๋ได้
ผมจึงต้องพยักหน้ารับทั้งๆที่ใบหน้าของตัวเองกำลังแดงแปร๊ด
“จริงดิวะ
เฮ้ย! ยินดีด้วยว่ะมึง
ทีนี้มึงก็ไม่ต้องคอยนั่งมองรูปเขาเป็นวันๆแล้วดิ ?”
อีฮยอกแจกล่าวอย่างยินดี และมันก็พอดีที่เราสองคนเดินมาจนถึงหน้าประตูห้อง
“ไม่หรอก”
ผมค่อยๆไขประตูห้องด้วยมือข้างเดียว เพราะมืออีกข้างยังต้องจับอีฮยอกแจอยู่
“อะไรวะ
? กูงง”
อีฮยอกแจถามอย่างงุนงง พลางทิ้งตัวลงนั่งอย่างยากลำบากบนเตียงนอน
“เขาไปแล้ว..” ผมตอบด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
พลางเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อรินน้ำเปล่ามาให้เพื่อนดื่ม
“อ้อ.. ก็เขาเป็นสจ๊วตนี่นะ”
อีฮยอกแจเอื้อมมือมารับน้ำ จากนั้นก็พยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ ส่วนผมก็ขอแยกตัวมาอาบน้ำอาบท่าให้มันสบายตัวและหวังว่ามันจะสบายใจขึ้นมาด้วย..
จนกระทั่งอาบน้ำเสร็จ
ผมก็ถูกอีฮยอกแจใช้ให้เอากะละมังไปใส่น้ำสะอาดพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กมาหนึ่งผืน
เพื่อที่มันจะได้เช็ดทำความสะอาดตัวเองได้
ผมที่เห็นว่ามันคงจะลำบากน่าดูที่จะเช็ดตัวให้ตัวเองแบบนั้น
ก็เลยอาสาว่าเดี๋ยวจะทำให้ ปรากฏว่าอีฮยอกแจมันไม่ยอม เอาแต่ปฏิเสธหน้าแดงหูแดง..
เห้อ~ นี่ขนาดกับเพื่อนนะเนี่ย จะอายทำไมก็ไม่รู้!
แลจะเป็นเยอะ!
พอไม่มีอะไรจะทำแล้ว ผมก็หยิบโทรศัพท์มือถือตรงหัวเตียงและเดินไปที่ชั้นวางหนังสือติดกับประตูระเบียง
จากนั้นก็สุ่มหยิบหนังสือบางเล่มออกมาอ่านตรงบริเวณด้านนอกตรงมุมโปรด
แต่เมื่อผมทิ้งตัวลงนั่งบนโต๊ะตรงมุมคุ้นเคย จู่ๆ น้ำตามันก็พาลจะไหล
เมื่อได้เห็นโถแก้วที่มีเจ้าแมวน้ำตัวเล็กกำลังว่ายวนอยู่ในนั้น..
“ถ่านหมดซะแล้ว..” ผมบ่นอย่างเศร้าๆ แล้วก็เอานิ้วไปเขี่ยๆ เจ้าแมวน้ำสีขาวเล่น
“…”
“เจ้าของ-เล่นไม่บอกวิธีเปลี่ยนถ่านเอาไว้ซะด้วย แบบนี้มันใช้ได้เหรอครับ
?”
ผมหันหลังไปหยิบเจ้าตุ๊กตาดันโบะที่มีกล้องวงจรปิดซ่อนอยู่มาเกาะตรงขอบโถ
เพื่อให้เจ้าของได้เห็นว่าของเล่นที่เขาซื้อมาน่ะ ผ่านไปแค่วันเดียวถ่านก็หมดซะแล้ว
“…”
“ฮื้ม~ ฮืม~~~~” ผมรีบลุกขึ้นทักทายคุณฮีชอลที่เดินเกลากีตาร์พร้อมกับฮึมเพลงอยู่ตรงระเบียงห้องของเพื่อนบ้านทางฝั่งซ้ายมือ
“…”
“ทำหน้าซึมกะทือแบบนี้ ถ้าไอ้คยูมันเห็น มันคงเลี้ยงยกลำนะว่ามั้ย
?”
คุณฮีชอลพูดแกมหยอก
“คุณก็พูดเกินไปครับ..” ผมเกาศีรษะแก้เก้อ
“ไม่เกินไปหรอก หมอนั่นมันบ้าบอ-กว่าที่คิดจะตาย
ไม่งั้นมันจะซื้อไอ้แมวน้ำกระพริบไฟให้นายทำไม ปัญญาอ่อนจะตาย”
คุณฮีชอลกล่าวพลางวางกีตาร์เอาไว้บนโซฟาตัวยาวตรงหน้าประตูระเบียง
“…”
ส่วนผมก็ได้แต่นิ่งอึ้งที่คุณฮีชอลก็ทราบด้วยว่าพี่เขาซื้อของเล่นเด็กมาให้ผม
“งงดิ.. พอดีผมฝากมันดูเจ้าหญิงน้อยของผมน่ะ.. เอ่อ.. ผมหมายถึงตัวการ์ตูนจากในอนิเมะน่ะ” พอคุณฮีชอลเห็นผมทำหน้างงๆ
เขาก็เริ่มพูดขยายความให้ผมเข้าใจมากขึ้น
“อ้อ ครับ..” ผมยิ้มพลางตอบเบาๆ
“ได้ข่าวว่าพ่อมันป่วย
อาจจะไม่ได้บินรูทเอเชียแล้ว นายคงเหงาน่าดูนะ..” คุณฮีชอลเดินมาท้าวแขนคุยกับผมตรงกำแพงทางฝั่งซ้าย
“…” ผมยิ้มบางๆ อย่างยอมรับ
“เจ้านั่นน่ะ มันก็เหมือนอากาศนั่นแหละ
ถึงจะอยู่ไกล แต่มันก็สามารถทำตัวน่ารำคาญเหมือนอยู่ใกล้ๆได้ ไม่เชื่อคอยดู”
คุณฮีชอลกล่าวราวกับต้องการให้กำลังใจผม
“…” ผมจึงได้แต่ยิ้มรับเพียงอย่างเดียว
เพราะผมเข้าใจเป็นอย่างดีว่า ลูกเรือผิวขาวคนนั้นน่ะ ถึงตัวจะอยู่ตั้งไกล แต่เขาก็ยังสามารถทำตัวเหมือนเราอยู่ใกล้กันได้จริงๆ
“ได้ยินมาว่า สายการบิน Royal Etihad Airline
จะเปิดรับลูกเรือเพิ่มอีกสองอัตรานะ ถ้านายอยากจะลองเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน
สายการบินนี้ก็น่าจะโอเคดี” คุณฮีชอลพูดทิ้งท้ายแล้วก็เดินเข้าไปในห้องของพี่สาวข้างห้องทันที
ส่วนผมก็เผลอคิดเรื่องการเปิดรับสมัครลูกเรือของสายการบินทางแถบตะวันออกกลางอย่างไม่รู้ตัว
“ลองสมัครดูก็ไม่เสียหายนี่ซองมิน ?” อีฮยอกแจเดินกระเผลกๆมายืนพิงประตูระเบียงตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
แถมยังแนะนำให้ผมลองไปสมัครงานตามที่คุณฮีชอลให้ข้อมูลมาด้วย
“แต่กูว่างานต้อนรับมันไม่ใช่กูเลยว่ะ”
ผมบอกเหตุผลที่ผมไม่ค่อยอยากจะเป็นพนักงานต้อนรับสักเท่าไหร่นัก
“แล้วไงวะ ทีงาน
Airline Ticket Agent
มึงก็ต้องต้อนรับลูกค้าอ่ะ” อีฮยอกแจเถียง
“เนื้องานมันเหมือนกันที่ไหนวะ” ผมเถียงกลับ
“ต่างก็ต่างวะ .. แต่มึงอย่าลืมว่านอกจากเนื้องานแล้ว
ที่นั่นยังมีอีกอย่างที่ต่าง” อีฮยอกแจยักไหล่
“อะไรวะ ?” ผมย้อนถามอย่างสงสัย
“ก็ที่นั่นมีลูกเรือสายการบินอาหรับคนนั้นของมึงไง
สมควรไปสมัครไหมล่ะ หรือว่ามึงจะนั่งเหี่ยวตายอยู่ตรงนี้ ?”
อีฮยอกแจย้อนถามแล้วก็รีบเดินกระเผลกๆ
เข้าไปในห้องทันทีโดยไม่คิดจะฟังการตัดสินใจของผมอีก
หลังจากนั้นผมก็นั่งตบตีกับความคิดของตัวเองอยู่นาน
เพราะอีกใจนึงผมก็อยากจะลองทำ cabin
crew ดู แต่อีกใจผมก็คิดว่างานที่ผมกำลังทำอยู่ในตอนนี้ มันก็โอเคดี
ถึงเงินเดือนจะไม่มากเท่าพวกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน แต่ผมก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินเสียหน่อย
ส่วนเดือดร้อนใจน่ะ ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะทนได้หรือเปล่า..
ครืด
ครืด..
ผมเลิกคิดเรื่องเปลี่ยนงานแทบจะทันที
เมื่อโทรศัพท์ของผมกำลังสั่นรัวอย่างบ้าคลั่ง และเมื่อเปิดออกดูก็พบกับแท็กสำหรับประชาสัมพันธ์เรื่องการรับสมัครลูกเรือของสายการบิน
Royal Etihad Airline
ซึ่งบุคคลที่เป็นผู้เอาแท็กนี้มาแบ่งปันให้ผมทราบก็คือเพื่อนๆของลูกเรือของสายการบินดังกล่าวนั่นเอง..
จากที่ไม่คิดเรื่องจะเปลี่ยนงาน ผมก็เริ่มคิดขึ้นมาอีกนิด แต่ก็นั่นล่ะ
ใจของผมมันมีทั้งอยากและไม่อยากในคราวเดียวกัน
ผมเลยเลือกที่จะไม่เปิดข้อมูลดังกล่าวดู แต่กลับเปิดใช้งานโหมดกล้องถ่ายรูป
จากนั้นผมก็ถ่ายรูปเจ้าแมวน้ำสีขาวที่กำลังแน่นิ่งอยู่เหนือน้ำ
แชะ!
ผมอัพรูปลงในอินสตราแกรมของตัวเอง พลางเขียนแคปชั่นประโยคหนึ่งว่า ‘เจ้านายของเจ้านี่ไม่คิดจะบอกกันหน่อยเหรอครับว่ามันเปลี่ยนถ่านยังไง! ใช้ไม่ได้เลย!’
หลังจากที่ผมอัพไปแบบนั้น
ผมก็นั่งรอข้อความตอบกลับจากลูกเรือของสายการบินอาหรับอยู่นาน แต่จนแล้วจนรอด
เขาก็ยังไม่ยอมตอบกลับมา อาจเป็นไปได้ว่าเขากำลังยุ่งอยู่
ผมจึงตัดสินใจเข้านอนเพื่อที่เช้าวันพรุ่งนี้จะได้เริ่มวันใหม่ด้วยสภาพที่ไม่ง่วงนอนมากนัก
ครืด
ครืด..
‘ไหนว่าไม่ใช่เด็กชอบเล่นของเล่นไง ?’ ผมอมยิ้มหลังจากที่อ่านข้อความดังกล่าวจบ
พร้อมกับเดินกลับมายังโต๊ะตรงมุมโปรดของตัวเองอีกครั้งเพื่อรอโทรศัพท์
ครืด
ครืด..
“ครับ”
ไม่นานเบอร์ที่ไม่คุ้นเคยก็โทรกลับมา ผมจึงรีบกดรับสายด้วยความดีใจ
“ต่อไปพี่ใช้เบอร์นี้นะ เป็นเบอร์ส่วนตัว ไม่มีเปลี่ยน” พี่เขาบอก
“อ้อ.. ครับ”
ผมตอบพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ต่างจากการพูดที่ประหยัดคำเสียเหลือเกิน
“ช่วงนี้อาจจะยุ่งหน่อย
พอดีพี่ต้องเตรียมตัวเป็นพี่เลี้ยงให้เด็กใหม่ที่เขาเตรียมจะเปิดรับด้วย”
ลูกเรือของสายการบินอาหรับพูดอธิบายเพื่อที่จะให้ผมเข้าใจในความจำเป็นของเขาที่ไม่อาจตอบข้อความ
หรืออาจจะโทรหาได้ทันใจนัก
“ครับ..” ผมตอบรับ
ขณะที่ในหัวก็เริ่มคิดเรื่องการเปลี่ยนงานขึ้นมาอีกครั้ง
“เอ้อ.. ไอ้เรื่องเปลี่ยนถ่านนั่น สารภาพเลย
พี่ลืมถามคนขายมา..” ปลายสายสารภาพเสียงค่อย
ทำเอาผมอดหัวเราะไม่ได้
“ไปหาคำตอบมาให้ผมเลย..” ผมต่อรองอย่างเหนือกว่า
“โห.. กลับมาอยู่ดูไบแล้วอ่ะ
จะหาคำตอบได้ไงเล่าฮาบีบี” ปลายสายเริ่มใช้น้ำเสียงออดอ้อน
“อินเตอร์เน็ตหรือไม่ก็เพื่อนที่บินรูทเอเชียไงครับ เยอะแยะจะตาย”
ผมตอบพลางยิ้มจนเต็มแก้ม
“โห่
เยอะมาก มีตั้งสองทางแน่ะ” ร่างสูงกล่าวแกมประชด
“ฮ้าว
ผมไปนอนแล้วนะครับ ฝันดีนะ ตี๊ด---” ผมแกล้งทำเป็นหาว แล้วก็บอกฝันดีพี่เขาก่อนที่จะวางสายไป
พร้อมด้วยอาการหน้าร้อนในระดับที่มันแทบจะไหม้เสียให้ได้..
แถมหัวใจก็ยังจะเต้นรัวเสียอีกแน่ะ!
<-·´¯`·.¸¸.·´¯`·._.·`·.¸¸.·´¯`·._.·`·.¸¸.·´¯`·._.·´¯`·.¸>
เราปรับตัวหนังสือให้แล้วนะคะ
เห็นมีคนบอกว่ามันเล็กไป
ยังคงเรื่อยๆต่อไปแม้ว่าเรื่องจะดำเนินมาถึงตอนที่
18 แล้วก็ตาม 5555
หน้าตาของเจ้าแมวน้ำในเรื่องค่ะ
[KyuMin Fic] เพาะรัก ✈ 18