เพาะรัก
✈
14✈
สำหรับบุคคลคนทั่วไป
คำทักทายแรกในยามเช้าวันใหม่อาจเป็นคำว่า ‘อรุณสวัสดิ์’ แต่สำหรับลูกเรือของสายการบินอาหรับอย่างโจวคยูฮยอนมักจะเป็นประโยคที่ว่า
‘เมื่อคืนนี้นอนหลับฝันดีไหม ?’
“ก็ดีครับ” ผมตอบพลางอมยิ้มนิดๆ
ขณะที่เรากำลังหอบสัมภาระคนละหนึ่งใบไว้บนหลัง
เนื่องจากตอนนี้เราสองคนได้ทำการเช็คเอ้าท์ห้องพักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพราะช่วงบ่ายผมจะต้องรีบกลับไปทำงาน เนื่องจากผมใช้วันหยุดให้หมดไปอย่างคุ้มค่าด้วยการพักค้างคืนทั้งหมด
3 คืนเต็มๆ
เมื่อวานนี้ตอนช่วงเช้าจรดบ่าย
ผมกับพี่เขาใช้เวลาเดินเตร็ดเตร่ในเมืองจินเฮอย่างเพลิดเพลิน เราเดินทะลุซอยนั้นออกซอยนี้
พอเหนื่อยๆก็หยุดพักตรงข้างถนนบ้างล่ะ ข้างกำแพงบ้านคนอื่นเขาบ้างล่ะ หรือถ้าหิวเราก็จะแวะหาอะไรกินกัน
ซึ่งเมนูเบาๆสำหรับมื้อเช้าของเราก็ไม่พ้นขนมปัง
แต่ที่เมืองจินเฮจะมีร้านขนมร้านนึงที่ขึ้นชื่อมาก เขาจะทำขนมปังสอดไส้พ็อตกดแพ็คใส่กล่องเอาไว้เป็นของฝากจำนวนมาก
เรียกได้ว่าใครมาที่นี่ในช่วงเดือนเมษายนก็ต้องมาซื้อกิน และถึงแม้ว่าจะทำออกมาขายเยอะ
แต่ก็ไม่เคยพอสำหรับผู้บริโภคเลย ยิ่งช่วงเทศกาลก็ยิ่งขายดี เราสองคนก็เลยไม่พลาดที่จะซื้อมากินเล่นระหว่างที่เรากำลังเดินเล่นด้วยกัน
แล้วพอตกเย็นนิดๆพี่เขาก็ชวนผมไปเดินเล่นริมคลองเหมือนอย่างเมื่อสองวันก่อน
เพราะบรรยากาศสบายๆเย็นๆมันชวนให้ผ่อนคลาย เราก็เลยเลือกที่จะใช้เวลาให้หมดไปกับกิจกรรมเดิมๆ
แต่ให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิม เพราะเราสองคนเหมือนขยับเข้ามาใกล้กันมากกว่าที่เคย
..
หลังจากที่เดินเตร็ดเตร่กันจนท้องเริ่มส่งเสียงร้องประท้วงขึ้นมานิดๆ
เราก็เริ่มออกเดินหาร้านอาหารราคาถูกที่จะเป็นมื้อสุดท้ายสำหรับเราในทริปนี้ จนกระทั่งอิ่มท้อง
เราก็เริ่มมองหาร้านขายโปสการ์ดเพื่อเขียนข้อความส่งหาตัวเองตามธรรมเนียมที่ผมมักจะชอบทำเป็นประจำ
ซึ่งโจวคยูฮยอนลูกเรือของสายการบินอาหรับก็เห็นดีเห็นงามกับผมด้วย
พี่เขาก็เลยต้องลอกที่อยู่ของผมลงไปในโปสการ์ดของตัวเอง เนื่องจากพี่เขาจำที่อยู่ที่เกาหลีของตัวเองไม่ได้..
“พี่ซื้อไปฝากคุณฮีชอลไม่ใช่เหรอครับ
?” ผมย้อนถาม
เมื่อพี่เขาเปิดกล่องพ็อตกดปังของคุณฮีชอล
แล้วก็หยิบขนมปังสอดไส้พ็อตกดออกมาสองชิ้น เพื่อแบ่งให้ผมและทานเอง
“ปล้นหน่อยเดียวเอง
พี่มันไม่รู้หรอก” พี่เขาพูด พลางยักคิ้วใส่ผม
เห็นอย่างนั้นผมก็เลยอมยิ้มแล้วก็ก้มหน้าก้มตาแกะห่อพลาสสติกออก เพื่อทานมันรองท้องระหว่างที่เราจะเดินไปรอรถประจำทางเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟมูกุงฮวา
“เผลอแป้บเดียวเองเนอะ ทริปของเราก็จำเป็นจะต้องจบลงแล้ว
..” พี่เขาพูดพลางแวะชมวิวริมคลองเป็นการทิ้งทวนก่อนจะเดินทางกลับไปยังอินชอน
ขณะที่ในมือของพี่เขาตอนนี้ไม่ได้ถือพ็อตกดปังอีกแล้ว
แต่กลับถือโทรศัพท์มือถือและเสียบหูฟัง
โดยที่หูฟังข้างหนึ่งถูกปล่อยละลงกับอกเสื้อของพี่เขา
เนื่องจากพี่เขาไม่ได้ต้องการปิดกั้นการรับฟังทั้งหมด
“ยังเหลืออีกสองทริปไม่ใช่เหรอครับ ?” ผมอมยิ้ม
แล้วก็กัดพ็อตกดปังอีกหนึ่งคำเล็กๆ
เนื่องจากผมต้องการจะละเลียดขนมชิ้นนี้เป็นการทิ้งทวนด้วยเหมือนกัน
“พูดแล้วนะ ..” พี่เขาชี้มาที่ผม
พลางยักคิ้วอย่างเจ้าเล่ห์
“…” ส่วนผมก็ได้แต่เงียบ
เมื่อผมได้ตกหลุมพรางของพี่เขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ไปกันเถอะ ..” พี่เขาหันมายิ้มให้ผม
แล้วก็เริ่มต้นก้าวเดินอย่างเชื่องช้า
โดยที่ฝ่ามือของข้างหนึ่งของพี่เขาก็ไม่ลืมจะที่จับจูงผมให้เดินตามไปด้วยกันเหมือนอย่างเคย
ผมแอบยิ้มกับตัวเองอีกแล้ว ..
นี่ผมยิ้มมากไปหรือเปล่านะ ?
ระหว่างนั่งรถประจำทางในระยะสั้น
ผมก็อัพภาพพ็อตกดปังเพื่ออำลาเมืองจินเฮอย่างสมบูรณ์แบบลงในแอพพลิเคชั่นอินสตาแกรม
พร้อมกับแคปชั่นที่ว่า ..
imSMI : Bye
Bye #Jinhae #벚꽃빵 #delicious
จากนั้นไม่นานนักคนข้างๆผม ก็เข้ามากดหัวใจให้
…ซึ่งมันจะเป็นเรื่องปกติธรรมดามาก
ถ้าหากว่าพี่เขาไม่ได้ยิ้มจนเต็มแก้ม หลังจากที่กดหัวใจให้ผมแบบนั้น ..
ผมก็เลยต้องเสสายตากลับมามองจ้องหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองแทน
โดยที่ผมจะต้องเปิดหน้าทามไลน์ของตัวเองและไถมันเล่นเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่มันยากจะรับมือ
แต่แล้วบทสนทนาระหว่างลูกเรือของสายการบินอาหรับภายใต้ภาพพ็อตกดปังที่พี่เขาอัพลงในแอพพลิเคชั่นอันคุ้นเคยเมื่อวานนี้
ก็เรียกร้องความสนใจจากผมได้อีกแล้ว..
GaemGyu : #벚꽃빵 #delicious
Chimchang : แค่นี้มึงต้องปิดกั้นทางสว่างของพวกกูเลยเหรอวะ
?
Mino : เออ ..
จิตใจมึงทำด้วยอะไร ? มึงใจร้ายมาก
กูดราม่าระดับสิบ นอนไม่หลับเพราะไม่ได้เสือกมาทั้งคืน ㅋㅋㅋ
A.Imran : ㅋㅋㅋLOL, LMAO, ROFL, ROFLMAO 5555555555555
GaemGyu : Why are you laughing? (ทรานโดยกูเอง : หัวเราะหาพ่อมึงเหรอ ?)
Chimchang : ㅋㅋ (กูทรานบ้าง : มึงก็ .. แปลแบบนั้น
แถวบ้านกูเรียกว่าจังไรดี)
Mino : ㅋㅋㅋ(แล้วกูจะพลาดไม่ทรานได้ไง : แกล้งอิมรานมันทำไมมึง น่าสงสารนะ)
A.Imran : สาดดดดดดดดดดดด
GaemGyu : นี่ขนาดแม่งพิมพ์ผิด
ยังจะเสือกด่าได้อีก -_-
Chimchang : ว่าแต่มึงเถอะ
เปลี่ยนเรื่องทำเชี่ยไรครับ เรากำลังดราม่าระดับสิบอยู่นะเว้ย
อย่าให้ถึงระดับร้อยนะมึง!
Mino : เออ ..
อย่าให้พวกกูต้องใช้ไม้เด็ด ปลดล็อคเดี๋ยวนี้ กูขอสั่ง!
GaemGyu : ㅋㅋㅋLOL, LMAO, ROFL, ROFLMAO 5555555555555
A.Imran : Why
are you laughing?
GaemGyu : ‘private’ time make me
happy ㅋㅋ
A.Imran : ㅋㅋ right ?
Chimchang : หรา ?
Mino : ㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋ
Chimchang : ㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋ
ครืด ครืด
ผมสะดุ้งอย่างตกใจขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่ออยู่ๆโทรศัพท์ในมือผม ก็ร้องเรียกความสนใจขึ้นมากะทันหัน พอเห็นว่ามีคอมเม้นท์ใต้ภาพที่ผมเพิ่งจะอัพโหลดออกไป
โดยที่คนคนนั้นผมไม่รู้จักเขาแม้แต่นิดเดียวและไม่รู้ว่าเราเผลอไปกดฟอลกันและกันเอาไว้ตอนไหน
ถ้าคิดในแง่ที่ไม่วุ่นวายมาก ผมก็อาจจะฟอลเจ้าของแอคเค้าน์
A.Chimho ไว้ตั้งแต่ตอนที่ผมเพิ่มสมัครเล่นแอพพลิเคชั่นนี้ใหม่ๆก็เป็นได้
..
A.Chimho : อยากกินบ้างจังเลยครับ
:)
“เชี่ยละ พวกแม่งมีแอคหลุม”
พี่เขาอุทานออกมาอย่างหัวเสีย
แล้วจากนั้นพี่เขาก็ก้มหน้าก้มตาพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์ของตัวเองเป็นการใหญ่
GaemGyu : @ A.Imran @Chimchang @ Mino สัส
พวกมึงนอนเสือกกันทั้งคืนล่ะไม่ว่า ดราม่าระดับสิบบ้านมึงดิ
Chimchang : หรา ?
Mino : ㅋㅋㅋㅋㅋ
GaemGyu : กูขอสั่งให้พวกมึงแปลให้ไอ้อิมรานมันเสือกด้วย
กูด่าแบบอินเตอร์เดี๋ยวอารมณ์มันไม่ถึง ㅋㅋ
Chimchang : บร๊ะ!
Mino : กูแปลให้มันฟังแล้ว
คึคึคึ แล้วไงวะ คิดว่าพวกกูแคร์ ? ไม่เลยเว้ย
A.Chimho : @imSMI คุณไม่บล็อกพวกผมหรอกใช่มั้ย
? ตอบให้พวกผมชื่นใจหน่อยสิครับ :)
พี่เขาหันมามองหน้าผม
พลางแบมือขอโทรศัพท์ของผมราวกับขออนุญาต ผมก็เลยส่งโทรศัพท์ของตัวเองไปให้พี่เขาอย่างว่าง่าย
เพราะผมรู้ว่าพี่เขาต้องการจะทำอะไร ซึ่งผมก็ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น …
imSMI : เสียใจครับ ..
ผมขอบล็อก บาย!
Mino : @GaemGyu มึงอย่ามาชักใยเบื้องหลังไอ้สัส
นิสัย
“คึคึคึคึ”
พี่เขาเอาแต่หัวเราะเสียงต่ำ
แล้วก็คืนโทรศัพท์มาให้ผมเมื่อรถประจำทางจอดสนิทลงตรงชานชาลาอันเป็นจุดหมายปลายทางของเรา
และจากนั้นไม่นานนักรถไฟเที่ยวที่เราจะต้องโดยสารก็เดินทางมาถึง
เราสองคนก็เลยขึ้นไปนั่งตามหมายเลขบนหน้าบัตรอย่างรู้งาน
และเมื่อรถไฟเคลื่อนไปได้สักพัก เราสองคนต่างคนต่างก็พากันหลับสลบไสล ..
ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่า …
เราสองคนนอนเอาหัวพิงกัน โดยไม่รู้ตัวไปแล้ว
…
“มึงอยู่ไหน ?” ผมโทรหาอีฮยอกแจ
เมื่อผมคาดเดาเวลาอย่างถี่ถ้วนแล้วว่า ตัวผมไม่น่าจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องได้ทัน
“โรงพยาบาลดิวะ
ใครจะเหมือนมึงมีปัญญาไปนอนค้างอ้างแรมกับผู้ชาย” อีฮยอกแจมันเถียงกลับมาทันควัน ทำเอาผมรู้สึกผิดที่ลืมมันไปชั่วขณะ
“แล้วมึงเป็นยังไงบ้าง ?”
ผมถามด้วยความเป็นห่วงขึ้นมาทันที
“โอเคแล้ว
ว่าแต่มึงกลับจากทริปสุดสวีทของมึงหรือยัง ?” อีฮยอกแจมันย้อนถาม
“สวีทอะไร มึงก็พูดเพ้อเจ้อ ..” ผมเกาข้างแก้ม
พลางเดินดุ่มๆในโซลสเตชั่นเพื่อนั่ง AREX ย้อนกลับไปที่อินชอนใหม่อีกครั้ง
“หรา ?”
“มึงอยู่โรงพยาบาลแล้วกูจะทำยังไงดีวะ
กูกลับไปเอาเสื้อไม่ทันแน่” ผมขมวดคิ้วมุ่นเข้าหากันอย่างเคร่งเครียด
ขณะที่สายตาก็ต้องคอยมองตามแผ่นหลังกว้างของพี่เขาไปด้วยเพื่อไม่ให้เราพลัดหลงกัน
“รวนเลยนะมึง ปกติมึงวางแผนอะไรแม่งโคตรจะรัดกุมชิบหาย
.. เดี๋ยวกูให้เพื่อนกูไปเอาให้
มึงไปรอที่หน้าประตูทางเข้า AREX แล้วกัน”
อีฮยอกแจมันสั่งการเสร็จสรรพ จากนั้นมันก็วางสายไป
ส่วนผมก็เบาใจขึ้นมาหน่อยที่ผมจะไม่ต้องเข้างานสายอย่างที่เป็นกังวล
ซึ่งถ้าหากวันนี้ผมไม่ได้อีฮยอกแจช่วยเหลือไว้
ผมก็คงจะมาสายสมใจสองสาวเพื่อนร่วมงานของผมแน่
และผมก็คงต้องยอมรับสภาพ
เพราะผมเป็นคนเลือกให้ทุกอย่างมันดำเนินไปแบบนี้ ..
เหตุผลเดียวก็เพื่อ
โจวคยูฮยอนลูกเรือของสายการบินอาหรับคนนั้น …
<-·´¯`·.¸¸.·´¯`·._.·`·.¸¸.·´¯`·._.·`·.¸¸.·´¯`·._.·´¯`·.¸>
벚꽃 빵 ขนมไส้ดอกซากุระค่ะ เห็นเค้าว่าอร่อยกันนะ เรายังไม่เคยลอง
벚꽃 빵 ขนมไส้ดอกซากุระค่ะ เห็นเค้าว่าอร่อยกันนะ เรายังไม่เคยลอง
เห็นคอมเม้นท์ของคนอ่านแล้วเรามีกำลังใจแต่งมากมาย ขอบคุณทุกคนจริงๆค่ะที่ติดตามเรื่องนี้ เราก็เลยรีบปั่นฟิคมาตอบแทน T^T ตอนนี้ถึงจะสั้นแต่ก็กวนตีนเพราะเดอะแก๊งค์ลูกเรือสายการบินอาหรับเหมือนเดิม 555555555555
ปล. เพื่อนของอีฮยอกแจ ใครกันเน้อ ?
ยังไม่ได้ตรวจคำผิดนะคะ T_T
[KyuMin Fic] เพาะรัก ✈ 14