วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557

[Fic KyuMin] Beautiful Rich - [40]


Beautiful Rich   
แฟนผมสวยและรวยมาก
      

http://i.imgur.com/dTLwQXV.jpg



[40]



                วันนั้นกว่าผมจะเดินออกมาจากเขตรั้วบ้านของพี่เขาได้ ผมก็ต้องถูกพี่เขาจับหมุนตัวอยู่หลายหน เพราะว่าพี่เขาต้องการจะตรวจเช็คเนื้อตัวของผมว่ายังมีส่วนไหนส่อแววพิรุธอยู่บ้าง ..
                ผมน่ะย่นคิ้วแล้วย่นคิ้วอีก พี่เขาก็ยังไม่ยอมหยุดตรวจตราสภาพร่างกายของผมเสียที เพราะต่อให้พี่เขาใช้เหรียญคลึงเบาๆตรงที่เกิดเหตุอย่างไร มันก็ยังคงมีล่องลอยหลงเหลืออยู่ดี เพียงแต่มันไม่เด่นชัดมากก็เท่านั้น ..

                ครั้นเมื่อผมเดินกลับเข้ามาในบ้านของตัวเอง ผมก็เจอซองจินกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ ผมจึงต้องเดินตัวเกร็งหดคอเหมือนเต่ายามเมื่อเดินผ่านหน้าของซองจิน
                ผมน่ะเดินมาได้จนเกือบจะถึงบันไดขั้นแรกอยู่แล้ว แต่ซองจินดันมารั้งผมไว้ก่อน ผมงี้ใจเต้นรัวเลย เพราะผมกลัวว่าซองจินจะเห็นหลักฐานอันตรายเข้าให้ แต่ปรากฏว่าน้องเพียงแค่อยากจะถามความแน่ใจว่าเมื่อคืนผมหายไปอยู่ที่ไหนมา พอผมตอบว่าผมไปอยู่กับพี่คยู อีซองจินก็ถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างแรง แล้วก็หันไปสนใจรายการโทรทัศน์ที่ตนเองเปิดค้างเอาไว้ต่อ
                ท่าทางแบบนั้นของซองจิน มันหมายความว่าเขากำลังปล่อยวางหรือเปล่า ?
                อ่า .. นี่ผมทำตัวให้น้องหนักใจมากเลยหรือ ?

ป๊อก ป๊อก

ผมสะดุ้งอย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียงดังกุกกักมาจากทางหน้าต่าง จึงทำให้ภวังค์ทั้งหลายที่ผมสร้างขึ้นมลายหายไปในอากาศ ผมก้าวเท้าลงจากเตียงนอนแล้วก็เดินไปยังที่มาของเสียง
จากนั้นผมก็เปิดหน้าต่างและมองออกไปยังหน้าต่างทางฝั่งตรงกันข้าม แต่ปรากฏว่าห้องอยู่ทางฝั่งตรงกันข้ามกลับไร้ตัวตนของสิ่งมีชีวิตที่ชอบทำให้ผมยิ้มอยู่บ่อยๆ ผมชะโงกหน้าออกมาด้านนอกหน้าต่าง แล้วก็มองซ้ายที ขวาที เพื่อหาตัวการของเสียงเมื่อสักครู่ ….

“น้องแฟน!” ผมก้มหน้าลงมองเบื้องล่าง เมื่อผมได้ยินเสียงเรียกราวกับกระซิบเพียงเบาๆมาจากตรงนั้น และเมื่อผมมองลงไป ผมก็เห็นพี่เขามายืนปีนขอบรั้วกั้นระหว่างบ้านของเขากับบ้านของผมอยู่
ลงมาหาพี่หน่อย..’ พี่เขาใช้ภาษามือคุยสื่อสารกับผม

ทำไมครับ?’ ผมถามอย่างสงสัย เพราะปกติเวลาอย่างนี้ พี่เขายังเอาแต่จมปลักอยู่กับกองหนังสืออยู่เลย แล้วทำไมวันนี้พี่เขาถึงได้มายืนปืนขอบรั้วอยู่แบบนี้?
ลงมาเถอะน่า ..’ พี่เขาตอบผมด้วยภาษามืออีกหน พลางกวักมือเรียกให้ผมลงไปหา ผมจึงพยักหน้าให้แล้วก็หันหลังกลับเข้ามาในห้องเพื่อจะเดินลงไปหาพี่เขาข้างล่าง ..
ดึกดื่นจนป่านนี้แล้ว ก็ไม่รู้ว่าพี่เขามีเรื่องอะไรจะคุยกับผมกัน ..

“พี่กวนน้องแฟนหรือเปล่า?” พอผมเดินเข้ามายืนชิดริมรั้ว พี่เขาก็ถามไถ่ราวกับเกรงอกเกรงใจนักหนา หากแต่ว่าสีหน้ากลับดูระรื่นอย่างไรชอบกล ผมจึงพยักหน้าตอบพี่เขากลับไป
“อ้าว .. แล้วน้องแฟนลงมาหาพี่ทำไม หืม ? กำลังยุ่งอยู่เลยนี่ ..” พี่เขายิ้มล้อเมื่อผมกำลังทำหน้าตาอวบอูมอย่างไม่พึงพอใจ ครั้นเมื่อผมจะถอยหลังหนี พี่เขาก็ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างของเขาจับยึดลาดไหล่ทั้งสองข้างของผมไว้ จึงทำให้ผมเดินหนีเขาไปไหนไม่ได้ ..

“คนกำลังยุ่งที่ไหนเน้อ .. แค่เสียงก้อนหินกระทบกระจกก็ยังได้ยิน ..” พี่เขาจ้องหน้าผมขณะที่มือของเขาก็ยังจับยึดไหล่ของผมไว้ จากนั้นเขาก็ทำเป็นเงยหน้าขึ้นมองฟ้านิดนึง พลางพูดประโยคล้อเลียนผมออกมา ..
“ท ..ทำไม ..” ผมถามเสียงสั่น เมื่ออยู่ๆพี่เขาก็เปลี่ยนโหมดมายืนจ้องมองใบหน้าของผมอย่างจริงจัง สายตาของพี่เขาที่มองมายังผม มันเป็นสายตาที่ทำให้ผมรู้สึกปั่นป่วน
ผมไม่ชอบให้พี่เขาจ้องแบบนี้เลย มันเขินๆยังไงก็ไม่รู้ ..
แต่มันก็น่าแปลก ที่ผมยังยืนให้พี่เขาจ้องทั้งๆที่ตัวเองก็เขินจะแย่แล้ว ..

“มะรืนนี้ พี่จะไปเข้าค่ายเซอร์เวย์นะ”
“ครับ?” ผมที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก เมื่อจู่ๆพี่เขาก็มาบอกกิจกรรมที่เขาต้องทำกับผม .. แล้วก็นะ มะรืนนี้ ถ้าผมจำไม่ผิด ผมคิดว่าผมได้ยินพี่เขาบอกว่าคุณแม่ของเขาจะมาไม่ใช่หรือ?

“พี่จะไปเข้าค่าย ..
“ต..แต่ว่า .. คะ ..คุณแม่ ..พี่ ..จะ .. มา ..” เมื่อพี่เขาพูดย้ำอีกรอบ ผมจึงมีโอกาสย้ำถามในสิ่งที่ผมเคยได้ยินมากับหู

“ก็นั่นแหละ .. ถ้าอาจารย์ไม่เตือนวันนี้ พี่เองก็ลืมเรื่องเข้าค่ายไปเลย .. ส่วนแม่ก็ไม่ยอมเปลี่ยนแผน เพราะจองตั๋วเครื่องบินมาแล้ว ..
“พี่ฝากน้องแฟนคอยดูคุณแม่ให้หน่อยได้หรือเปล่า?” พี่เขาถามขณะที่เขาก็ยังคงจับล็อคตัวผมไว้ ผมจึงได้แต่ยืนลังเลอยู่ตรงหน้าเขาเพียงเท่านั้น
ที่พี่เขาคิดจะฝากฝังคุณแม่ของเขาไว้กับผมมันดีแล้วหรือ ในเมื่อครอบครัวของพี่เขาไม่ค่อยชอบผมสักเท่าไหร่นี่ ..

“กลัวคุณแม่พี่เหรอ?” ผมเงียบไม่ยอมตอบรับอะไรทั้งนั้น พี่เขาถึงได้ถามผมกลับมาแบบนั้น
” ผมส่ายหน้าตอบเพราะผมไม่ได้กลัว แต่ผมแค่ไม่มั่นใจว่าผมจะสามารถดูแลคุณแม่ของพี่เขาได้ และผมก็ไม่มีความมั่นใจมากพอที่จะไม่คิดมาก ว่าคุณแม่ของพี่เขาจะไม่พอใจมากแค่ไหน ถ้าหากท่านรู้ว่าคนที่ลูกชายของท่านส่งให้มาคอยดูแล แท้ที่จริงคือคนที่คนในครอบครัวของท่านไม่ยอมรับ ..

                “ฝากหน่อยนะคนดี .. คุณแม่ของพี่ท่านแพ้ผงชูรส จะทานอะไรก็ต้องคอยระวัง .. ถ้าเกิดไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง พี่จะไม่รบกวนน้องแฟนขนาดนี้เลย .. พี่รู้พี่เข้าใจว่าเรายังไม่พร้อม แต่ว่ามันก็สุดวิสัยจริงๆ พี่ไม่รู้จะไว้ใจใครได้มากกว่าน้องแฟนอีกแล้ว ช่วยหน่อยนะครับ นะ?” พี่เขากำลังอ้อนผม เขาใช้น้ำเสียงนุ่มๆในการเกลี้ยกล่อม แถมยังใช้สีหน้าร้องขอในการบีบบังคับผมอย่างไม่ทันตั้งตัว สุดท้ายผมก็เลยเผลอตอบตกลงอย่างไม่ลังเลใจ
                “ขอบคุณครับ ..” พี่เขาลูบข้างแก้มของผม เมื่อผมให้คำตอบดังใจหวัง ใบหน้าของเขายิ้มแย้มอย่างโล่งใจ แต่ผมนี่สิหนักใจมากๆเลย ..

                “พี่ไม่กวนแล้ว น้องแฟนไปนอนเถอะ”
                “ฝ..ฝันดี ..” ผมพยักหน้ารับคำบอกเล่าเมื่อครู่ แล้วผมก็รีบบอกให้พี่เขาฝันดีอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ จากนั้นผมก็ถอยหลังออกห่างจากริมรั้ว เมื่อพี่เขาเองก็คล่อยๆลดมือลงจากลาดไหล่ของผม ..
               
                ผมเดินก้มหน้าอมยิ้มจนเต็มแก้ม เมื่อผมนึกเขินกับการกระทำของตัวเอง แต่แล้วผมก็มีเวลาเขินได้ไม่นาน เมื่อพี่เขาเองก็อวยพรผมกลับมาเช่นกัน
                พี่เขาบอกผมว่า ฝันดีถึงพี่นะ ถึงจะเรียกว่าฝันดี ..’

“เดี๋ยวนี้เก็บอาการไม่ค่อยจะเป็นเลยเนอะ” ผมเงยหน้าขึ้นมองเบื้องหน้า เมื่อได้ยินเสียงของซองจินดังอยู่ในระยะประชิด แต่ก็ไม่เจอใคร เพราะซองจินมายืนแอบพิงกำแพงอยู่ทางด้านซ้ายมือของผมนี่ไง ..
“หะ ..หา ..ระ ..เรื่อง ..” ผมหันไปเถียงซองจินทันที

“ผมไม่ได้หาเรื่อง แต่พูดความจริง ..” ซองจินยักไหล่ พลางยกมือขึ้นมากอดอก
..” และเมื่อผมได้ยินน้องพูดแบบนั้น ผมก็หมดหนทางจะเถียง เพราะสิ่งที่น้องพูดมันคือสิ่งที่ผมกำลังเป็น ..

“ไปหาจงจินนะ .. ล็อคบ้านดีๆด้วย ..” จู่ๆซองจินก็เปลี่ยนเรื่อง แล้วก็เดินทิ้งห่างจากผมเฉยเลย แถมก่อนจะไปก็ยังไม่วายหันมาส่งการยังกับผมเป็นเด็ก
“ร ..รู้แล้ว ..” ผมเดินไปยืนชิดริมรั้ว เมื่อซองจินเดินออกจากบ้านไปแล้ว

“เข้าบ้านไปได้แล้วไป .. อ้อ .. แล้วก็ไม่ต้องมาเปิดประตูต้อนรับแขกบ้านข้างๆบ่อยนักล่ะ .. เล่นตัวกับพี่มันหน่อยเข้าใจมั้ย..” ซองจินขยี้หัวผมก่อนจะเดินไปที่รถที่จอดอยู่ตรงหน้าบ้านแล้วก็สตาร์ทรถขับออกไปทันที  
ผมได้แต่ส่ายหน้ากับตัวเองแล้วก็เตรียมจะหันหลังเดินกลับเข้าบ้าน แต่ปรากฏว่าพี่เขาเดินเข้ามายืนชิดริมรั้วตรงที่ที่ผมยืนอยู่เสียก่อน ผมก็เลยยังไม่เดินเข้าบ้าน ..
“ม ..ไม่ ..นะ ..นอน ..ระ ..เหรอ?” ผมถามพี่เขากลับไป เมื่อยังเห็นพี่เขายืนยิ้มให้ผมอยู่

“ซองจินไปหาเพื่อนเหรอน้องแฟน?
“ครับ”

“ให้พี่นอนเป็นเพื่อนมั้ย?” พี่เขาถามกลับมาด้วยรอยยิ้ม
..” แต่ผมก็ส่ายหน้าปฏิเสธ เพราะผมเลือกที่จะทำตามในสิ่งที่น้องต้องการ ..

“แต่เดี๋ยวเราก็จะไม่ได้เจอหน้ากันอีกหลายวันเลยนะ ..” พอพี่เขาพูดออกมาแบบนั้น ปลายเท้าของผมก็หยุดการก้าวเดินให้ออกห่างจากริมรั้วในทันที

ผมยืนลังเลอยู่นาน ว่าผมควรจะให้พี่เขามานอนเป็นเพื่อนดีไหม เพราะความจริงแล้วผมเองก็อยากจะนอนมองหน้าของพี่เขานานๆ เพราะเดี๋ยวนี้เราได้เจอหน้ากันแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง ..
สุดท้ายผมก็เปิดประตูต้อนรับแขกบ้านข้างๆเข้ามาอยู่ร่วมชายคาด้วยอยู่ดี
                และคืนนี้ทั้งคืน ก็เป็นคืนที่ผมนอนหลับใหลในอ้อมกอดของพี่เขาอย่างอุ่นใจ ..

                วันนี้ทั้งวันฝนตกลงมาไม่ขาดสาย ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะตกอะไรนักหนา ดีที่ผมเอาร่มมาด้วยไม่งั้นผมคงต้องเดินตากฝนกลับบ้านแน่ๆ พี่เขาออกเดินทางไปได้สักพักแล้ว ที่ผมรู้ก็เพราะเราเพิ่งจะวางสายจากกันเมื่อสักครู่นี้เอง พี่เขาบอกว่าถ้าพี่เขาถึงที่หมายเมื่อไหร่ เขาจะโทรกลับมาอีกที แถมยังสั่งให้ผมรอรับโทรศัพท์อีกต่างหาก ..

                “มะ ..มิน ..โฮ” เมื่อผมเดินลงมาจากตึก ผมก็เจอกับมินโฮตรงปากทางเข้าคณะพอดี เราก็เลยหยุดทักทายกัน
                “กำลังจะเดินเข้าไปหาพอดีเลย ..” เขายิ้มกว้างให้ทั้งๆที่เนื้อตัวของเขาเปียกปอนไปหมด เพราะเขาวิ่งฝ่าสายฝนมา

                “ทงเฮล่ะ ?” พอเขาถามถึงทงเฮ ผมก็นึกโล่งใจเมื่อความบังเอิญในครั้งนี้มันไม่ได้เป็นไปอย่างที่ผมคิด..
                “ม ..ไม่ ..สะ ..บาย” มินโฮพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

                “ถ้าอย่างนั้นผมขอเดินกลับด้วยคนนะ”
                “อื้อ”

                “ผมถือให้ดีกว่า ..” และเพราะฝนมันยังคงตกโปรยปรายลงมาไม่ขาด เขาก็เลยอาสาเป็นคนถือร่มให้ผม เพื่อที่เขาจะได้อาศัยชายคาร่มของผมด้วย
                ” ผมนึกลังเล แต่เห็นทีผมจะถือร่มเองก็คงได้เมื่อยแขนตายชัก เพราะมินโฮตัวสูงกว่าผมมาก เมื่อเขามาอาศัยชายคาร่มกับผม ก็ทำให้ผมต้องยืนถือร่มให้สุดแขน ..
                สุดท้ายผมก็ต้องเสียสละให้เขาเป็นคนถือร่มให้ผมเสียเอง ..

                เราสองคนเดินอยู่เคียงข้างกันท่ามกลางสายฝน หัวใจของผมยังคงเต้นในจังหวะเดิมๆ แม้ว่าบรรยากาศจะเป็นใจมากก็ตาม เราสองคนยืนอยู่ใกล้กันมากจนถึงขนาดที่ผมได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆจากตัวเขา แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นได้เท่ากับกลิ่นน้ำหอมเป็นตัวของพี่คยู
                “เขยิบเข้ามาอีกก็ได้นะ .. ไหล่เปียกหมดแล้ว” ถึงเขาจะพูดเสนอผมแบบนั้น แต่ในความเป็นจริงกลับเป็นเขาที่ขยับตัวเข้ามาใกล้ผม ..
                ซึ่งท่าทีของเขามันทำให้ผมนึกกังวล
                แต่ผมก็พูดอะไรมากไม่ได้ ในเมื่อเขาไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดีกับผมเลย ..

                ผมทนอยู่กับความอึดอัดใจได้ไม่นาน เมื่อเราสองคนเดินมาถึงคณะวิศวะเราก็ต่างคนต่างแยกทางกัน ทีแรกเขาก็คะยั้นคะยอจะไปส่งผม แต่ปรากฏว่าแทมินมีธุระเขาก็เลยต้องคอยเป็นสารถีให้อีกฝ่าย โดยที่ผมเองก็รีบปลีกตัวออกมาเช่นกัน
                ผมจึงมีเวลามาเดินทอดน่องท่ามกลางสายฝนในระหว่างทางกลับบ้านได้ ..

                “คุณยายครับ หนาว~” ผมหันไปมองทางต้นเสียงเมื่อสักครู่ จึงทันได้เห็นยายหลานคู่หนึ่งกำลังยืนหลบฝนอยู่แถวใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ตอนนี้ทั้งต้นล้วนเป็นสีส้มอมแดงทั้งสิ้น
                “อดทนก่อนครับ .. เป็นลูกผู้ชายต้องอดทนนะ ถ้าเดินฝ่าฝนไปตอนนี้ต้องไม่สบายแน่ๆ” ผู้วัยกลางคนที่เด็กผู้ชายตัวเล็กเรียกว่าคุณยาย กำลังยืนลูบเนื้อลูบตัวของหลานชายที่กำลังเปียกปอนเพื่อต้องการให้ความอบอุ่น

                “ครับ!” เด็กผู้ชายตัวเล็กตะเบ๊ะรับคำของคุณยายของเขาอย่างหนักแน่น จากนั้นเจ้าเด็กตัวเล็กก็เดินย่ำขาไปมาราวกับว่าเขากำลังวิ่งเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายของตนเอง
                เมื่อเห็นอย่างนั้นผมจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาสองยายหลาน แล้วก็ยื่นร่มสีแดงที่ผมถืออยู่ในมือไปให้คุณยาย อ่าไม่สิ ผู้หญิงวัยกลางคนท่านนี้ยังไม่แก่ขนาดนั้น หน้าตาของท่านยังดูสาวๆอยู่เลย

                “ผะ ..ผม ....ให้ ..” ผมบอกกับผู้หญิงวัยกลางคนท่าทางใจดี แล้วก็ยัดร่มใส่มือของเธอ จากนั้นผมก็เดินตากฝนออกมาจากที่ตรงนั้น ..
                สายฝนที่โปรยปรายลงมา ถึงแม้จะสร้างความหนาวเย็นให้กับร่างกายของผม ..
                หากแต่จิตใจของผมมันกลับรู้สึกอบอุ่น เมื่อผมได้แบ่งปันน้ำใจให้กับผู้อื่น ..



<-·´¯`·.¸¸.·´¯`·._.·`·.¸¸.·´¯`·._.·`·.¸¸.·´¯`·._.·´¯`·.¸>


แอบเห็นแว๊บๆว่ามีคนอ่านบอกว่าคนเขียนเหนื่อยไหมที่ต้องเติมจุดให้น้องแฟน 5555 อยากบอกว่าเหนื่อยมาก กร๊ากก แต่เพื่อฟิลลิ่งที่ดีเลยต้องเติม 5555 หูยยยยย แต่ละคนมองพี่โมเมเป็นคนยังไงกัน พี่โมเมไม่ได้คิดไม่ซื่อสักหน่อย งานนี้ต้องโทษน้องแฟนแต่เพียงผู้เดียว ดูสิดูยอมเขาตลอดดดดดด ซองจินก็พูดไปเถอะ 555555 ส่วนมินโฮนี่อะไรยังไงน้า ....

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น