วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2557

[Fic KyuMin] Beautiful Rich - [36]

Beautiful Rich   
แฟนผมสวยและรวยมาก
 
  


[36]

                ผมเลือกที่จะเข้าเรียนช้ากว่าปกติ แม้ว่าวันนี้พี่เขาจะมาส่งผมก่อนเวลาเข้าเรียนก็ตาม เมื่ออาจารย์เดินเข้ามาในห้องบรรยาย ผมก็รีบเดินเข้าห้องเรียนเช่นกัน เพียงแต่ผมไม่ได้เดินเข้าประตูหน้าเหมือนอย่างอาจารย์ เนื่องจากวันนี้ผมเกิดอยากจะเป็นเด็กหลังห้องขึ้นมา ผมก็เลยเลือกที่จะใช้ประตูหลังห้องแทน ..
                จากที่นั่งชั้นบน ทำให้ผมมองเห็นทงเฮที่นั่งอยู่ด้านล่างได้อย่างชัดเจน ฝ่ายนั้นกำลังนั่งคุยกับเพื่อนในคณะอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งอาจารย์เริ่มเช็คชื่อเขาถึงหยุดคุย ..

                การเรียนการสอนในวันนี้ ผมรู้สึกว่ามันยาวนานมาก เพราะอาจารย์เล่นสอนแบบไม่มีเวลาพักเบรกเลย นักศึกษาหลายคนจึงพากันทำเนียนเดินเข้าเดินออกไปเข้าห้องน้ำอยู่บ่อยๆ ส่วนผมนี่สบายหน่อยเพราะเป็นเด็กหลังห้องก็เลยไม่ต้องทำเนียนอะไรมาก
                ผมออกมายืนยืดเส้นยืดสายตรงระเบียงด้านหลังห้องบรรยาย มันเป็นทางเดินที่สามารถทะลุไปยังห้องน้ำได้ แต่ผมไม่ได้อยากจะเข้าห้องน้ำมากมายขนาดนั้น ผมก็เลยยืนเกาะระเบียงมองบรรยากาศรอบๆมหาลัยของตัวเองแทน

                คืนนั้นผมอายมากที่จู่ๆพี่ชางมินกับพี่จงฮยอนก็เดินเข้ามาเห็นพอดี แถมยังพ่วงท้ายด้วยซองจินอีกคน เราสองคนก็เลยไปไม่เป็นขึ้นมา ฝ่ายพี่ๆทั้งสองก็อาการจ้องจะล้อเลียนผมกับพี่เขากันใหญ่ แต่พอซองจินระเบิดออกมา ทุกคนก็ต้องลี้ภัยกลับไปตั้งหลักที่บ้านของตัวเองในทันที
                ซองจินอบรมผมเสียยกใหญ่ที่ผมทำตัวใจง่าย หน้าของน้องตอนนั้นมันบึ้งมาก แถมซองจินยังเอาแต่เดินวนไปวนมารอบๆตัวผมแล้วก็ทำเสียงฮึ่มฮั่มในลำคออยู่หลายรอบเลยทีเดียว
                จากนั้นมาพี่คยูก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินเข้ามาในบ้านของผมอีกเลย ..
                ซองจินนี่ร้ายจริงๆ

                แต่พอผ่านไปสามวัน ผมกับพี่เขาก็กลับมาตัวติดกันเหมือนเดิม เพียงแต่ให้ตายยังไงซองจินก็ไม่ยอมให้พี่เขาเข้ามาในบ้านเป็นอันขาด ทุกวันนี้โทรศัพท์กระดาษก็เลยกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารจำเป็นของเราไปโดยปริยาย
                หากถามว่าทำไมผมถึงไม่นอนคุยโทรศัพท์หรือแชทข้อความกับพี่เขาล่ะ ผมก็คงต้องบอกไปตามความจริงว่าผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะตั้งแต่วันแรกพี่เขาก็ชวนผมคุยผ่านโทรศัพท์กระดาษนี่ไปแล้ว ..
               
                พื้นที่ตรงจุดที่ผมยืนอยู่ มันเป็นเนินดินแดงกว้างๆล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่ และเมื่อมองไปจนไกลสุดลูกหูลูกตาก็มองเห็นภูเขาลูกใหญ่อยู่ไกลลิบ บรรยากาศของมหาวิทยาลัยทางตอนเหนือก็แบบนี้ เต็มไปด้วยต้นไม้แลดูร่มรื่น

                ครืด ครืด ..

                ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาจากในกระเป๋ากางเกงเพื่อเปิดข้อความอ่าน พอเห็นว่าใครเป็นคนส่งมา ผมก็แอบอมยิ้ม ผมกวาดสายตาลงไปยังเนินดินเบื้องล่างตามที่พี่เขาบอกในข้อความ ผมก็เลยทันได้เห็นว่าความจริงแล้วพี่เขายืนอยู่ตรงนี้มานานแล้ว เพียงแต่สายตาของผมมันเอาแต่มองไปยังที่ไกลๆก็เลยไม่เห็นพี่เขากับกลุ่มเพื่อนที่ยืนทำงานกันอยู่ตรงเนินดินใกล้ๆตัวอาคาร
                เกเรเหรอน้องแฟน ?’ พี่เขาเดินถอยหลังให้ออกห่างจากตัวอาคารอีกนิดหน่อย เพื่อที่ผมกับเขาจะได้สื่อสารกันได้ พี่เขาเริ่มต้นใช้ภาษามือคุยกับผม เพื่อที่คนอื่นจะได้ไม่รู้ว่าเรากำลังคุยอะไรกัน
                เปล่า ..’ ผมส่งภาษามือกลับไป พลางส่ายหน้าปฏิเสธสำทับอีกรอบ

                โกหก .. นี่มันเพิ่งจะสิบโมงเอง .. ชักจะเกเรใหญ่ละ แบบนี้ต้องสั่งสอนแล้วมั้งพี่เขาทำหน้าตาดุ ในขณะที่ใช้ภาษามือดุผมไปด้วย
                เดี๋ยวผมก็เข้าเรียนแล้วเถอะผมเถียงกลับอย่างไม่ยอมเพียง

                “ไอ้สัส! มึงก็ต่อว่าแต่น้องมัน .. แล้วตัวมึงทำไมไม่มาช่วยงานกูวะ .. จีบกับแฟนอยู่ได้ไอ้สันขวาน” พี่ชางมินตะโกนต่อว่าพี่คยูซะเสียงดังเลย ขนาดผมอยู่บนชั้นสองยังได้ยินแว่วๆเลยอ่ะ
                “เข้าไปเรียนเลยน้องแฟน ..” พอพี่ชางมินต่อว่าพี่เขาเสร็จ พี่ชางมินก็หันมาเล่นงานผมด้วยภาษามือที่ผมอ่านแล้วไม่เข้าใจ แต่ที่ผมเข้าใจและรับรู้ได้ก็เพราะพี่ชางมินตะโกนบอกผมนี่แหละ!

                “อดแดกข้าวกลางวันแน่ๆกู ไอ้เพื่อนเชี่ยดันมัวแต่หลีแฟน ..” ผมทนยืนต่อไปไม่ไหวแล้ว เพราะนอกจากพี่ชางมินจะล้อหน้าตายแล้ว พี่จงฮยอนยังมาเหนือเมฆกว่าอีกแน่ะ
                สุดท้ายผมก็ต้องรีบกลับเข้าไปนั่งหลับในห้องเรียนจนหมดคาบ
                อ่า .. แอบนิสัยไม่ดีจริงๆนะผมเนี่ย ..

                หลังจากหมดคาบเรียน ผมก็ลองเดินไปตรงด้านหลังอาคารเรียนดู เผื่อว่าพี่เขาจะยังปักหลักทำงานอยู่ตรงนั้น แต่ผมก็ยังไม่ทันเดินไปจนถึงด้านหลังตึก อีทงเฮก็ร้องเรียกผมเสียก่อน ผมจึงเลยรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุด จนกระทั่งสายตาของผมมองเห็นกลุ่มคนจำนวนหนึ่งกำลังจับกลุ่มทำอะไรสักอย่างอยู่ ณ ที่เดิม ..
                ผมสาวเท้าเดินเข้าไปรวมกลุ่มกับรุ่นพี่ต่างคณะ ขณะที่อีทงเฮก็ร้องเรียกผมอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งเขาเห็นว่าผมกำลังยืนอยู่กับใคร เขาก็เลยหันหลังเดินกลับไปตามทางเดิม ..

                “มีใครเรียกน้องแฟนหรือเปล่า ?” พี่เขาถาม พลางมองไปรอบๆบริเวณที่เรากำลังยืนอยู่ ผมก็เลยต้องทำเป็นมองไปรอบๆบ้าง เมื่อไม่เห็นใครที่ผมเดินหนี ผมก็หันมาทำหน้าสงสัยใส่พี่เขาในเชิงว่า ใครกันที่ร้องเรียกผม ..
                “ช่างเถอะ พี่คงหูแว่วมั้ง ..” พี่เขาโบกมือไปมาคล้ายกับไม่สนใจอะไรนัก แต่สายตาของพี่เขากลับมองจ้องไปยังมุมตึกที่ทงเฮเดินจากไปราวกับติดใจอะไรบางอย่าง ..

                “ท ..ทำ .. อะไร ....อยู่ครับ ?” ผมก้มหน้าลงไปถามพี่เขาที่ตอนนี้ทรุดตัวลงไปนั่งหยิบจับอุปกรณ์บางอย่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
                “สำรวจพื้นที่น่ะ น้องแฟนช่วยไปหยิบสมุดสนามให้พี่หน่อย เอามาทั้งหมดเลยที่วางอยู่บนโต๊ะใต้ตึกนั่นน่ะ” ผมพยักหน้ารับ แล้วก็เดินตรงไปยังโต๊ะตัวยาวที่พวกพี่เขาวางสัมภาระกองๆกันเอาไว้ จากนั้นผมก็วางกระเป๋าของตัวเองบ้าง แล้วจึงค่อยเก็บรวบรวมสมุดที่มันวางเกลื่อนกลาดผสมกับอุปกรณ์หน้าตาแปลกๆมาให้พี่เขาตามคำไหว้วาน ..

                “หมุดวงรอบห่างกันไม่เกินสามร้อยเมตร ..” พี่คยูส่งสมุดสนามให้เพื่อนๆของพี่เขาคนละเล่ม โดยดูจากชื่อที่เขียนเอาไว้บนหน้าปก จากนั้นก็ตกลงกันเบื้องต้นเพียงเล็กน้อย แล้วก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำงาน พร้อมกับอุปกรณ์หน้าตาแปลกๆ
                เมื่อผมเห็นพี่เขากำลังจริงจังกับการทำงาน ผมก็เลยเดินไปนั่งเล่นที่โต๊ะตรงใต้ตึก เพื่อที่พี่เขาจะได้ทำงานได้สะดวกขึ้น ผมนั่งเอาปลายคางวางลงบนกระเป๋าของตัวเอง พลางใช้สายตามองจ้องพี่เขาที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการวัดโน่นวัดนี่

                การสื่อสารในการทำงานของพวกพี่เขา ไม่ได้เสียงดังโหวกเหวกเหมือนตอนที่ผมแอบอู้ในชั้นเรียนอีกแล้ว อาจเพราะตอนนี้พวกพี่เขากำลังอยู่ในช่วงจริงจังกับการทำงานก็เป็นได้ ผมเห็นพวกพี่เขาใช้สัญญาณมือในการสั่งการให้อีกคนเดินหน้า ถอยหลัง ขยับซ้ายหรือขวาแทน
                เวลาที่รอบตัวของพี่เขามีอุปกรณ์วิชาชีพของวิศวะโยธาอยู่รอบๆตัว มันทำให้พี่เขาดูเท่ห์อย่างบอกไม่ถูก อีกทั้งเวลาที่พี่เขาทุ่มเทให้กับการทำงานในสิ่งที่เขาเลือก ท่าทางของเขาก็ยิ่งดูดี ..
                พอได้เห็นพี่เขาในมุมนี้ มันกทำให้ผมรู้สึกว่า
                พี่คยูนี่เหมาะจะเป็นวิศวะจริงๆนั่นแหละ ..

                ระหว่างทำงานก็มีบ้างที่พวกพี่เขาจะพักเหนื่อยกัน และระหว่างนั้นเพื่อนๆกลุ่มอื่นที่ทำงานอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันก็เข้ามาร่วมวงกับกลุ่มของพี่เขาด้วย พี่เขาเข้ากับคนง่าย เวลาอยู่ในกลุ่มเพื่อน พี่เขาจะเป็นคนที่เฮฮาและดูกวนๆ จึงทำให้เพื่อนๆพากันชื่นชอบพี่เขากันใหญ่
                “ร้อนเชี่ยๆ” พี่จงฮยอนเดินมาทิ้งตัวลงนั่งบนโต๊ะที่ผมนั่งอยู่ก่อนแล้วเป็นคนแรก จากนั้นก็ตามมาด้วยเด็กวิศวะอีกหลายชีวิต

                “กูล่ะเสียวจะทำไม่ทันชิบหาย กลัวคำนวณผิดพลาดว่ะมึง” พอพี่ชางมินทิ้งตัวลงนั่งข้างๆพี่จงฮยอนได้ พี่เขาก็บ่นออกมาอย่างกังวล
                “เชื่อกู มีไอ้แทซองอยู่ทั้งคน ยังไงกลุ่มเราก็ต้องเอ ยกกลุ่มเว้ย” พี่คยูทิ้งตัวลงนั่งข้างๆผม พลางพูดให้กำลังใจเพื่อนตัวเอง

                “แหม่ .. กูก็คนนะครับ ไม่ใช่อัจฉริยะมาเกิด ถึงกูจะได้ท็อปเกือบทุกวิชา ก็ใช่ว่ากูจะเป็นยอดคน” พี่คนที่ชื่อแทซองทิ้งตัวลงนั่งข้างพี่คยู พลางเหน็บแนมที่พี่คยูยกยอเขาจนเกินไป
                “ไม่รู้เว้ย มีมึงก็เท่ากับได้เอมาครึ่งตัวแล้วเว้ย” พี่คยูยังคงเถียง

                “สรุปพวกมึงเอากูเข้ากลุ่มเพราะเหตุนี้ ?” พี่แทซองถามกลับด้วยสีหน้ากวนเบื้องล่างเอามากๆ พวกพี่ทุกคนบนโต๊ะประมาณเกือบสิบคนก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เออ!’ จากนั้นพี่แทซองก็ทำเป็นน้อยใจ ไปนั่งก้มหน้าอีกโต๊ะหนึ่ง แถมยังทำเสียงสะอึกสะอื้นอีกต่างหาก แต่พี่ๆทุกคนกลับไม่สนใจ จนเขาต้องหยุดเรียกร้องความสนใจอย่างเสียอารมณ์
                “กูเห็นแฟนมึงหลายครั้งละ นี่มึงไม่คิดจะแนะนำให้พวกกูรู้จักบ้างเหรอวะ ?” พี่ผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ริมสุดฝั่งซ้ายมือหันมาถามเรื่องของผมบ้าง

                “ไม่เว้ยย .. น้องชายเค้าหวง ..” ไม่พี่คยูชะโงกหน้าข้ามตัวผม เพื่อหันไปตอบเพื่อนในคณะของตัวเอง
                “มึงหวงไม่อยากให้ใครรู้จักมากกว่ามั้งไอ้เชี่ย .. เห็นเรียกแต่น้องแฟนๆ คิดว่าพวกกูอยากรู้มากมั้ง .. โห่ กูไม่เห็นจะอยากรู้จักแฟนมึงเลย ” พี่ผู้ชายอีกคนทำหน้าตาล้อเลียนใส่พี่คยู แต่มันกลับส่งผลกระทบถึงผมซะงั้น

                “แต่ถ้าได้ชื่อและเบอร์โทรก็ดี ….” หลังจากที่พี่ผู้ชายคนนั้นพูดจบ พี่คยูที่นั่งอยู่ข้างๆผมก็กระเด้งตัวออกจากโต๊ะแล้วก็วิ่งไล่ถีบรุ่นพี่คนนั้นจนเสียงดังเอะอะไปหมด จึงทำให้ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนี้พากันหันมามองที่พวกเขาสองคนอย่างสนใจ
                “วิศวะก็แบบนี้ .. น้องแฟนควรทำใจให้ชิน .. พวกมันก็แซวเล่นไปงั้น ไม่ได้คิดจริงจังอะไรหรอก” พี่จงฮยอนยักคิ้วใส่ผม

                “ไอ้เทจงมันชอบใจเวลาเห็นไอ้คยูมันดีดดิ้นเรื่องน้องแฟน .. เพราะคนที่มันชอบดันไปชอบไอ้คยู มันก็เลยแค้นฝังหุ่น ได้โอกาสเป็นแกล้งไอ้คยูกลับทุกที .. ที่จริงมันสองคนก็เฮฮาบ้าบอเอาฮาเท่านั้นแหละ” พี่ชางมินอธิบาย ผมก็ยิ้มรับ เพราะอันที่จริงผมก็ไม่ได้คิดว่าพี่เขาจะอยากได้เบอร์โทรของผมจริงๆหรอก ผมดูออก ..
                “สัส .. กูเหนื่อย” พี่คยูบ่นพี่เทจง พลางแนบหน้าลงกับโต๊ะ ส่วนอีกฝ่ายก็ออกอาการเหนื่อยไม่แพ้กัน

                พวกพี่เขาสั่งข้าวมาทานตรงใต้ตึกเผื่อผมด้วย พอผมกินเสร็จผมก็ต้องรีบไปเข้าเรียนในช่วงบ่ายต่อ แล้วพอหลังเลิกเรียนพี่เขาก็จะมารับผมกลับบ้านด้วยกันเหมือนเดิม
                “เดี๋ยวน้องแฟน .. ยื่นมือมานี่ก่อน ..” ตอนนี้พี่เขากลับถึงบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือก็แต่ผมที่จะต้องเดินออกจากโรงรถของพี่เขา เพื่อไปยังบ้านของตัวเองนั่นแหละ
เมื่อได้ยินพี่เขาเรียก ผมก็หันกลับมาหาพี่เขา แล้วก็ยื่นมือส่งไปให้อย่างงงๆ

            “เมื่อพระเจ้าสร้างอีซองมินคนใหม่ ..” พี่เขาพูดไปด้วยพลางไร้ปลายนิ้วชี้ลงบนฝ่ามือของผมไปด้วย
               

                “ใส่ความกล้าลงไปเยอะๆ” พี่เขากำมือ แล้วก็ชูขึ้นตรงหน้าผม จากนั้นก็เทความกล้าที่ว่าลงบนฝ่ามือของผม
               

                “ตักความขี้กลัวออกไปหน่อย ..” จากนั้นพี่เขาก็ใช้นิ้วชี้สมมติว่าเป็นช้อนงัดความขี้กลัวที่ว่าออกจากฝ่ามือของผม
               

                “ทีนี้ใส่ความมั่นใจลงไปเยอะๆ” แล้วพี่เขาก็กำมือชูความมั่นใจที่ว่าให้ผมดู แล้วก็เทๆลงบนฝ่ามือของผม
               

                “ตอนนี้อีซองมินที่อยู่ตรงหน้าพี่เป็นคนใหม่แล้ว” พี่เขาประครองข้างแก้มของผม แล้วก็หันหน้าของผมไปมา ราวกับจะมองว่าผมเป็นคนใหม่จริงๆหรือยัง
               

                “น้องแฟนเป็นคนใหม่แล้วนะ ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว .. ลุยเลย” ผมชื้นใจอย่างบอกไม่ถูก ผมก็เลยพยักหน้ารับคำของพี่เขาระรัว จากนั้นผมก็โน้มตัวเข้าไปจูบปลายคางของพี่เขาเพื่อแทนการขอบคุณด้วยคำพูด ..
                “แค่จูบคางเองเหรอ ?” แต่พอผมผละตัวออกมา พี่เขากลับถามขึ้นลอยๆอย่างนั้น แต่ฝ่ามือของเขากลับแตะที่ริมฝีปากของตัวเองเพื่อบ่งบอกว่าผมควรจะแตะจูบที่อื่นด้วย ..

                “พี่ให้กำลังใจน้องแฟนไปแล้ว ทีนี้ก็ถึงตาน้องแฟนให้กำลังใจพี่ทำงานส่งอาจารย์บ้าง .. อย่าเอาเปรียบกันสิ” พี่เขาหรี่ตามองผม พลางพูดจาออดอ้อนจนน่าใจสั่น หากแต่การกระทำของเขามันกลับทำให้ผมรู้ตัวได้เลยว่าผมกำลังถูกล้อเข้าให้แล้ว ..
                “จูบแค่นี้เอง” พี่เขาอาศัยทีเผลอ แตะริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากของผม จากนั้นก็ยิ้มแป้นรอให้ผมทำตามที่เขาแนะนำบ้าง

                “ไม่ได้เหรอ ?” พี่เขาทำหน้าเศร้า จนผมต้องกลั้นใจจูบพี่เขาก่อน แต่พอผมจะผละออกพี่เขากลับไม่ยอม เขายังคงอยากจะแตะริมฝีปากของเราให้แนบชิดกันอยู่อย่างนั้น
                เป็นเวลานานหลายนาทีเลยล่ะ กว่าเขาจะผละใบหน้าออกห่างจากผม

                “พี่ชอบจูบกับน้องแฟนจัง ..” พี่เขากระซิบข้างหูของผมเสียงแผ่ว ทำเอาผมที่ได้ยินถึงกับวางตัวไม่ถูก เลยต้องรีบเปิดประตูรถ แล้วก็เดินออกมาให้ห่างจากโรงจอดรถที่อุณหภูมิมันชักจะสูงลิ่วอย่างคนจิตใจไม่ค่อยปกตินัก แต่พอเดินออกมาจากโรงจอดรถของพี่เขาได้แค่ครึ่งทาง เสียงของใครบางคนก็ลอยลมเข้ามาขัดเสียก่อน ..
                “เออดี .. กูอุตส่าห์ห้ามไม่ให้พี่มันเข้าบ้าน .. แต่พี่กูกลับเดินเข้าบ้านพี่มันซะเอง .. คือดีมาก ..” ซองจินยืนเกาะขอบรั้วในบริเวณบ้านของผม ขณะที่สายตาของน้องก็มองมายังผมที่ยืนอยู่ในเขตรั้วของพี่คยู

                “กูควรจะปลง .. ควรจะปลงอย่างจริงจังด้วยเว้ย”

<-·´¯`·.¸¸.·´¯`·._.·`·.¸¸.·´¯`·._.·`·.¸¸.·´¯`·._.·´¯`·.¸>

มาต่อแล้วค่า อิอิ วันนี้มาเร็วเพราะเป็นวันหยุดของเรา >.<
 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น